สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ หรืออีเวนต์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานจัดแสดงสินค้า งานนิทรรศการ ตลอดจนงานประชุมสัมมนา ต่างก็ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการจัดงาน อีกทั้งยังมีเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม ยิ่งเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการมากขึ้นที่จะต้องปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์มากที่สุด
งาน Exhibition ยังเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังของธุรกิจ B2B
TTF ออแกไนเซอร์ที่คร่ำหวอดในวงการงานแสดงสินค้าประเภท
B2B มากว่า 35 ปี เผยถึงภาพรวมธุรกิจว่า
“เนื่องจากงานแสดงสินค้าประเภท B2B อาทิ งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรและอุตสาหกรรม หรืออย่างงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
เป็นเวทีที่ต้องการนำเสนอเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์
สัมผัสกับสินค้าโดยตรง นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายยังต้องการคำอธิบายจากทีมขายหรือทีมเทคนิคในเชิงลึก
โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้งาน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของการซื้อขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ทำให้จำนวนผู้เข้าชมงานไม่ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
และผู้แสดงสินค้ายังคงเชื่อมั่นว่างานแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ในขณะเดียวกันผู้จัดงานเองก็ต้องมีการปรับตัวในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการทำ Online Seminar,
Online Business Matching หรือ Virtual Event
เพื่อให้ผู้แสดงสินค้าได้มีโอกาสทำการตลาดตลอดทั้งปีนอกเหนือจากวันงาน และเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้แสดงสินค้ามากยิ่งขึ้น”
เทรนด์การจัดงาน
Exhibition ที่เปลี่ยนไป
TTF หนึ่งในผู้จัดงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างงานสถาปนิก’65 เผยถึงทิศทางของรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต
“สิ่งที่ผู้จัดงานแสดงสินค้าต้องทำคือการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
และด้วยข้อจำกัดที่มีผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดงานในรูปแบบออนกราวด์อย่างเดียวไม่เพียงพอ ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้แสดงสินค้าได้ประโยชน์สูงสุดในการทำการตลาด
ทาง TTF ได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานสถาปนิกหลังจากนี้เป็นแบบไฮบริด ที่จะมีการทำงานควบคู่กันทั้งแบบ
ออนกราวด์และออนไลน์ ดังนี้
1. Digital Showroom พัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ให้กับลูกค้าพันธมิตรของบริษัท
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถค้นหาข้อมูลวัสดุก่อสร้างได้ตลอดเวลา และให้ผู้แสดงสินค้ามีโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์-บริการตลอดทั้งปี
2. Online Seminar เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในวงการก่อสร้าง ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสถาปนิก-นักออกแบบ
ผู้ประกอบการ และลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ในช่วงที่มีการจัดงานแสดงสินค้าเท่านั้น
3.Event และ Meeting
Group เพื่อให้สถาปนิกและผู้ประกอบการได้พบปะพูดคุยและกระชับความสัมพันธ์กัน
โดยจะมีการจัดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
4. Online Content เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์-บริการและข่าวสารของลูกค้าตามช่องทางออนไลน์
โดยมุ่งสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
เพราะการพัฒนาและปรับตัวมาโดยตลอด
ทำให้ TTF ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการจัดงานสถาปนิก โดยวัดผลจากจำนวนผู้แสดงสินค้าที่เข้าร่วมเต็มพื้นที่
3 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ จำนวนผู้ชมงานที่สูงขึ้นทุกปี ความพึงพอใจของผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงานจากแบบประเมินหลังจบงาน
รวมถึงยอดจองพื้นที่ onsite จากผู้แสดงสินค้าสำหรับงานในปีถัดไป”
สำหรับงานสถาปนิก’65 จะมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1
พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ArchitectExpo.com/2022/space-reservation/ หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น