ดร.ชัยชาญ
เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เข้าร่วมประชุมผ่านออนไลน์
ในหัวข้อ “Ad
Hoc Expert Meeting on Supply Chain Crisis and High Freight Rates Confirmation” จัดโดย การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United
Nations Conference on Trade and Development: UNCTAD) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดย สรท. แสดงความกังวลอย่างมากต่อวิกฤตการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบัน
จากปริมาณความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากการฟื้นตัวของโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนตู้คอนเทนเนอร์
ต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน กระทบต่อภาคขนส่งของไทยและทั่วโลกในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันผู้ส่งออกต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และพื้นที่ระวางเรือ
รวมถึงอัตราค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขดังกล่าวทาง
สรท. จึงมีเสนอแนะ ดังนี้
ข้อเสนอแนะในระยะสั้น
•
ต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพของท่าเรือหลักของประเทศปลายทางเพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับกิจกรรมการขนส่งระหว่างประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
•
การเพิ่มประสิทธิภาพของการไหลเวียนของข้อมูล
โดยเฉพาะข้อมูลการหมุนเวียนของตู้คอนเทนเนอร์ในแต่ละท่าเรือสำคัญ เช่น ระบบการติดตามสถานะของเรือ
ความแออัดของท่าเรือหลัก ทั้งนี้เพื่อใช้ในการวางแผน กำหนดเวลาการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางได้ใกล้เคียงมากที่สุด
อีกทั้งเพื่อช่วยให้สามารถคาดการณ์และบริหารจัดการปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ให้อยู่ในระดับสมดุล
•
สนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ส่งออกและสายเรือ
ในการแบ่งปันข้อมูล วางแผนล่วงหน้าและการทำ Service Contract เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน
ข้อสังเกตที่สำคัญ: ผู้ประกอบการ
SME
โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
จะได้รับผลกระทบรุนแรงเนื่องจากมูลค่าสินค้าค่อนข้างน้อย ประกอบกับค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ความล่าช้าของสายเรือในการเทียบท่าและการปรับเปลี่ยนตารางเวลาเข้าเทียบท่าของสายเรือส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจำนวนมาก
ผู้ประกอบการส่งออกนำเข้าสินค้าเกษตรที่เป็น SME ไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าขนส่งระหว่างประเทศจากปัจจัยที่เกิดขึ้นได้
และในอนาคตอาจกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่ทยอยหายไปจากระบบการค้าโลก
ข้อเสนอแนะในระยะยาว
•
เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเดินเรือ
มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องกำหนดข้อบังคับว่าด้วยการค้าที่เป็นธรรม
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาวิกฤตการณ์ด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในอนาคต
ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลด้านการขนส่งทางทะเลระดับสากล ควรเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
•
เสนอให้มีการจัดตั้ง Fair
Trade Committee และกำหนดกรอบการทำงานและขั้นตอนในระดับสากลร่วมกับประเทศสมาชิกของ UNCTAD เพื่อยกระดับการค้าที่เป็นธรรมและความโปร่งใสในการกำหนดอัตราค่าระวางเรือ
•
เสนอให้แต่ละประเทศสมาชิกของ UNCTAD ควรมีหน่วยงานภายในทำหน้าที่เสมือน องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ
(IMO) คณะกรรมการการเดินเรือแห่งสหพันธรัฐสหรัฐ (FMC) คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตการดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมตลอดจนกำหนดเงื่อนไขการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมร่วมกับ
Fair Trade Committee ในระดับสากลต่อไป
อนึ่ง ที่ประชุมมีความเห็นแนวทางแก้ไขปัญหา อาทิ 1) เห็นด้วยให้มีหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้าในแต่ละประเทศต้องให้ความสำคัญและเร่งพัฒนากลไกควบคุมการแข่งขันและการกำหนดอัตราค่าระวางและค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าทางทะเล 2) เห็นด้วยให้มีการเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพของท่าเรือหลักของประเทศปลายทางเพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับกิจกรรมการขนส่งระหว่างประเทศ
3) แต่ละประเทศต้องเร่งขับเคลื่อนพัฒนาระบบดิจิทัล (Digital platform)
ให้เป็น Single window สำหรับอุตสาหกรรมท่าเรือ
สายการเดินเรือ ศุลกากร
และผู้นำเข้าส่งออกให้สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลกลดปัญหาข้อมูลคลาดเคลื่อน
และ 4)
เร่งยกระดับพัฒนาท่าเรือและสายการเดืนเรือในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (decarbonization)
ซึ่งในอนาคตอาจมีการเรียกค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการปล่อยของเสียดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น