เปิด 13 จุดเดือด “The Silent Hour เงียบระห่ำ ลั่นนรก” ก่อนเอาชีวิตรอดจากทีมฆ่า ในสถานการณ์ไร้เสียง ณ สถานที่ปิดตาย 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เปิด 13 จุดเดือด “The Silent Hour เงียบระห่ำ ลั่นนรก” ก่อนเอาชีวิตรอดจากทีมฆ่า ในสถานการณ์ไร้เสียง ณ สถานที่ปิดตาย 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 


เตรียมเปิดทุกโสตความคลั่งให้มันส์ลั่นนรกไปกับ “The Silent Hour” ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ที่จะพาผู้ชมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในฉากการต่อสู้แนวทางใหม่กับการถูกไล่ล่าในมุมมองผู้ที่สูญเสียการได้ยินผ่านสองตัวละครหลักคือ “แฟรงก์ ชอว์” (โจแอล คินนาแมน) เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้สูญเสียการได้ยินจากอุบัติเหตุระหว่างตามล่าคนร้าย และ “เอวา เฟรมองต์” (แซนดรา เม แฟรงก์) พยานหูหนวกคนสำคัญที่ถูกหมายหัวจากคนร้ายที่ต้องการฆ่าปิดปาก ทั้งสองต้องใช้ทักษะการสื่อสารเฉพาะทาง ใช้ทุกประสาทสัมผัสแทนการได้ยินมาใช้ต่อสู้เอาตัวรอดในตึกร้างที่ถูกปิดตาย! ที่จะยิ่งทวีคูณความลุ้นระทึกไปกับทุกข้อจำกัดทีอยากเกินจะเอาชนะ


“มงคลเมเจอร์” ขอเปิด “13 ไฮไลต์สุดเดือด” วอร์มอัปความมันส์ “เงียบระห่ำ ลั่นนรก” ที่ไม่ควรพลาดชมในโรงภาพยนตร์กับเกมล่าที่ไร้การได้ยิน ต้องลุยสุดชีวิต เพื่อโค่นเหล่าอาชญากร!


1. นี่คือภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ไอเดียสุดเจ๋งว่าด้วยคนที่ “สูญการได้ยิน” ทั้งสองคนต้องหนีตายและต่อสู้โดยไร้การได้ยิน


2. อีกหนึ่งบทบาทที่ไม่ธรรมดาของ “โจแอล คินนาแมน” ที่ต้องรับบทคนที่สูญเสียการได้ยิน ก่อนหน้านี้เขาเคยรับบทผู้สูญเสียทักษะทางการพูดมาแล้วใน “Silent Night” (2023)


3. “โจแอล คินนาแมน” ต้องฝึกภาษามืออย่างเข้มข้นถึง 3 เดือน เพื่อสวมบทบาทเป็นผู้สูญเสียทางการได้ยิน และเพื่อการสื่อสารที่ราบรื่นกับ “แซนดรา เม แฟรงก์”


4. “แซนดรา เม แฟรงก์” ตัวจริงเธอคือ “นักแสดงหูหนวก” มากความสามารถที่ผ่านงานแสดงมาแล้วมากมาย


5. เพราะไม่ได้ยินเสียง การสั่งแอ็กชัน คิว และคัต “แซนดรา เม แฟรงก์” จึงต้องติดตั้งอุปกรณ์ Buzzer ที่ใต้แขนและขาเพื่อให้ทีมงานรีโมตสั่งคิวถ่ายด้วยการสั่น

6. ในกองถ่ายมีล่ามภาษามือถึง 3 คน เพื่ออำนวยความสะดวกให้การถ่ายทำราบรื่นที่สุด

7. ผลงานกำกับล่าสุดของ “แบรด แอนเดอร์สัน” จาก “The Machinist” (2004) และ “The Call” (2013) ผู้กำกับมากความสามารถที่เชี่ยวชาญการทำหนังทริลเลอร์สุดระทึก

8. ทันทีที่ได้อ่านบทหนังเรื่องนี้ทั้งผู้กำกับและนักแสดงต่างก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลด้วยความน่าสนใจของตัวบท

                                                                                 


9. ผู้เขียนบท “แดน ฮอลล์” ได้แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครของ “โจแอล คินนาแมน” มาจากคนที่มีตัวตนจริงๆ นั่นคือนายตำรวจ NYPD ซึ่งประสบอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่จนต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ทำให้โดนปลดจากองค์กร แต่เขาไม่ยอมแพ้ต่อสู้จนฟ้องร้องชนะคดีและได้กลับมาทำงานอีกครั้ง

10. โลเคชันหลักอย่าง “อาคารร้าง” ในเรื่อง ทีมสร้างได้ออกแบบภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อบิลด์บรรยากาศในการไล่ล่าครั้งนี้ให้สมจริงที่สุด

11. นี่คือภาพยนตร์แอ็กชันสุดระทึกที่จะทำให้เราได้เห็นมุมมองการต่อสู้ของคนที่สูญเสียการได้ยิน

12. “ฉากแอ็กชันในลิฟต์” เป็นอีกหนึ่งฉากสำคัญที่ทีมงานต้องสร้างและออกแบบกลไกลของลิฟต์ใหม่ทั้งหมด เพราะเป็นฉากการต่อสู่ในขณะที่ลิฟต์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นฉากไฮไลต์สุดมันส์ที่คนดูจะลืมกะพริบตา!

13. “โจแอล คินนาแมน” มีส่วนร่วมกับฉากแอ็กชันในลิฟต์ เขาเป็นคนออกแบบท่าต้อสู้ด้วยตัวเองโดยอิงจากวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสูของเขา และเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นท่าไม้ตายนี้บนจอภาพยนตร์

เมื่อไร้การได้ยิน ไร้เวลาเหลือ ไร้ทางออก ทางเดียวที่จะรอดคือต้องสู้สุดชีวิต ปลุกทุกสัญชาตญาณมันส์ส่งท้ายปีกับ “The Silent Hour เงียบระห่ำ ลั่นนรก” 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad