· รมว. “ศุภมาส” หนุนเสริมการประชุมเครือข่ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 มุ่งสร้างและพัฒนากำลังคนทักษะสูง ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในยุคปัจจุบันและอนาคต พร้อมนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง
กรุงเทพฯ 22 พฤศจิกายน 2567 - นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ร่วมปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ“Rising Minds : จุดประกายนักวิจัยรุ่นใหม่ สู่เครือข่ายความร่วมมือเพื่ออนาคตชาติ” พร้อมเป็นประธานเปิดงาน “การประชุมเครือข่ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567” TSRI Research and Development Personnel Network Forum 2024 TSRI-RPN 2024: Preparing Today for Tomorrow’s Challenges โดยมี ศ.เกียรติคุณ ดร. นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธาน กสว. ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. คณะกรรมการ กสว. ผู้บริหารหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พร้อมด้วยเมธีวิจัยอาวุโส และนักวิจัยรุ่นใหม่ กว่า 1,200 คน รวมถึงผู้แทนบริษัทเอกชนชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงาน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การต่อยอดงานวิจัยที่มีศักยภาพสูง และการพัฒนากำลังคนให้ตอบโจทย์ความต้องการประเทศนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)กล่าวว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีการส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ ร่วมกับนักวิจัยอาวุโสผู้มีประสบการณ์ รวมถึงเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ในการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำคัญของประเทศ โดยกระทรวง อว. ได้มีการเปิดตัวแผนพัฒนากำลังคนภายใต้แนวคิด “บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ” มุ่งให้ไทยเป็นผู้นำด้านการเสริมศักยภาพบุคลากรยุคใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรม ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลกตามนโยบายรัฐบาล โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ได้สนับสนุนข้อเสนอโครงการผลิตและพัฒนากำลังคนใน 4 อุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเต็มที่ คือ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมการแพทย์ขั้นสูง รวมถึง 2 วาระสำคัญเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) และการสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ศ.เกียรติคุณ ดร. นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า จากการปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) มีเป้าหมายสำคัญในการทำให้เกิดการจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานวิจัยและนวัตกรรมสามารถตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติได้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม สร้างระบบให้เกิดการสนับสนุนงานวิจัยที่สามารถตอบโจทย์ประเทศและสร้างมูลค่าเพิ่มได้ โดย กสว.ได้รับนโยบายจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) เพื่อขับเคลื่อนระบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในมิติต่างๆ สร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ให้เกิดการพัฒนาประเทศได้อย่างสมดุล
“นโยบายสำคัญของ กสว. คือ มุ่งขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ ววน. ให้เกิดผลสัมฤทธิ์สร้างการเปลี่ยนแปลง
พร้อมจัดการสนับสนุนงบประมาณแบบ Multi-year และ Block Grant สนับสนุนให้มีบุคลากรใหม่ด้านการวิจัยเพิ่มขึ้นและส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ สร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือ ร่วมลงทุนกับกลไกงบประมาณต่างๆ ของประเทศ”
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเป็นสังคมฐานนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.
ให้ความสำคัญต่อการพัฒนากำลังคน มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนากำลังคนทักษะสูง ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในยุคปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะในสาขาที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และนโยบายประธาน กสว. ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพกำลังคนทักษะสูงและนักวิจัยรุ่นใหม่ มุ่งเน้นการสร้างโอกาสและสภาพแวดล้อมที่เอื้อ
ต่อการเติบโตทางวิชาการและวิชาชีพ การส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความรู้ผ่านการสนับสนุนทุนวิจัย โครงการฝึกอบรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อให้นักวิจัยรุ่นใหม่ได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ การเชื่อมโยงงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรมและสังคม สนับสนุนให้นักวิจัยรุ่นใหม่ทำงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและสังคม และเกิดกลไกการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง
“การนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักธุรกิจ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม หรือประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ SRI for ALL ด้วยการสานพลังอย่างไร้รอยต่อ ด้วยกลยุทธ์ SILK ได้แก่ S คือ SYNERGY & BOUNDARYLESS สานพลังเครือข่ายและพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ I คือ INTELLIGENT SRI SYSTEM ยกระดับ ววน. ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส L คือ LEAP TECHNOLOGY INVESTMENT มุ่งเน้นการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมายประเทศ และ K คือ KNOWLEDGE GOVERNANCE - SRI FOR ALL สร้างระบบ/แพลตฟอร์ม เพื่อนำความรู้ของระบบ ววน. ไปใช้ประโยชน์กับทุก ๆ คนอย่างทั่วถึง”
ทั้งนี้ การประชุมเครือข่ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 TSRI Research and Development Personnel Network Forum 2024 TSRI-RPN 2024: Preparing Today for Tomorrow’s Challenges เป็นเวทีเชื่อมระหว่างนักวิจัยไทยผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิจัยรุ่นใหม่และนักวิจัยอาวุโส ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความเชี่ยวชาญ ที่จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน รวมถึงการต่อยอดงานวิจัยที่มีศักยภาพสูงต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น