บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 845.8 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 7.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุ จับตาไตรมาสสุดท้ายโรงไฟฟ้าพลังงานลมวินชัยเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนผลงานต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีหน้า ด้านบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 150 MW อัพฐานกำลังการผลิตไฟฟ้าเติบโตเท่าตัว
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 845.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และงวดสะสม 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 2,484.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น มาจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” ขนาด 45 เมกะวัตต์เต็มไตรมาส และเชื่อว่าจะช่วยหนุนรายได้ต่อหลังผ่านจุดต่ำสุดช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 3/2567 โดยต้นไตรมาส 4/2567 เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากกระแสลมที่เพิ่มขึ้น หลังเข้าสู่ช่วงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/2568 โดยคาดว่ารายได้จากวินชัยจะสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ที่ Adder จะหมดอายุในต้นปีหน้า และจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า (Repowering) SPN ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ 15 – 20% ภายหลังเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ปลายปี 69 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ เติบโตจาก 283 เมกะวัตต์ ไปสู่ 475 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับ 4 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ ลีโอ 2 ขนาด 16.4 เมกกะวัตต์ โซล่าร์ฟาร์มไต้หวัน ขนาด 17.0 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการรวมกัน ขนาด 8.9 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการทั้งหมดมีความคืบหน้าตามแผน ด้านแผน PDP ของประเทศไทย ที่ (กกพ.) เดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เฟส 2 บริษัทฯ ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้เช่นเดียวกัน
“ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนขยายการลงทุนโดยแสวงหาโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เราเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสมดุลของกระแสเงินสด และขยายการเติบโต ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมด้านเงินลงทุน บริหารความเสี่ยงทั้งในส่วนของดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน อยากเน้นย้ำให้นักลงทุนทราบว่า จุดแข็งของเราคือความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารโรงไฟฟ้า อยากให้ติดตามการเติบโตของบริษัทฯ ต่อจากนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่จะมุ่งสู่เป้าหมาย 600 เมกะวัตต์ต่อไป” นายวรุตม์ กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น