กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ “ยกระดับผู้ประกอบการ SMEs บุกตลาด FTA” ติวเข้ม SMEs Future Food ขยายการส่งออกไปตลาดญี่ปุ่น โดยใช้ประโยชน์จาก FTA พร้อมนำคณะผู้ประกอบการเดินทางไปสำรวจตลาดโมเดิร์นเทรด และจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าแดนปลาดิบ ณ กรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคมนี้
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ มอบหมาย นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ยกระดับผู้ประกอบการ SMEs บุกตลาด FTA” จัดโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุมมโนปกรณ์นิติธาดา กระทรวงพาณิชย์ โดยเปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายส่งเสริม พัฒนา และยกระดับ
ขีดความสามารถผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความพร้อมในการแข่งขัน ตั้งเป้าหมายเร่งผลักดันธุรกิจ SMEs ให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ต่อ GDP ภายในปี 2570 เนื่องจากธุรกิจ SMEs เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของไทย จึงได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ผู้ผลิตสินค้า Future Food 4 ประเภท คือ อาหารฟังก์ชั่น อาหารใหม่ อาหารทางการแพทย์ และอาหารออร์แกนิก พัฒนาเป็นผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าว ไปตลาดญี่ปุ่น โดยใช้ประโยชน์จาก FTA จำนวน 3 ฉบับ คือ ไทย-ญี่ปุ่น อาเซียน-ญี่ปุ่น และ RCEP ที่ญี่ปุ่นได้ยกเว้นหรือลดการจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าให้กับสินค้าไทยเหลือน้อยที่สุดแล้ว จึงช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้
โครงการ “ยกระดับผู้ประกอบการ SMEs บุกตลาด FTA” มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 155 ราย และผ่านการคัดเลือกรอบแรก เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 จำนวน 20 ราย โดยสินค้าที่ผ่านการคัดเลือก เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวจากไข่ขาว ชาจิงจูฉ่าย กาโนล่าช็อกโกแลต เต้าหู้อบกรอบ โปรตีนถั่วเหลืองอบกรอบ ขนมอบกรอบข้าวผสมจิ้งหรีด ข้าวก่ำล้านนากาโนลา
ข้าวจากเนื้อปลาและสาหร่าย เป็นต้น โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ Boot Camp ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 - 28 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครปฐม สำหรับผู้ได้รับคัดเลือก 10 รายสุดท้าย จะได้เข้าร่วมกิจกรรมเดินทาง
ไปสำรวจศักยภาพตลาดและจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม 2568
กระทรวงพาณิชย์มั่นว่า โครงการ “ยกระดับผู้ประกอบการ SMEs บุกตลาด FTA” ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สามารถสร้างความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นอีกกลไกหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ Future Food ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมคบเคี้ยว รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ติดอาวุธ FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 14 ฉบับครอบคลุม 18 ประเทศภาคี
และอีก 3 ฉบับ ที่ลงนามแล้ว ครอบคลุม 6 ประเทศภาคี ขยายการส่งออกสินค้าแบรนด์ไทยไปในตลาดญี่ปุ่นและตลาดโลกต่อไป นายเอกฉัตร กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น