เหยื่อเมาแล้วขับจี้รัฐบาล สนับสนุนประชาชนมีส่วนร่วม รณรงค์และบังคับใช้กฎหมายลดอุบัติเหตุ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568

เหยื่อเมาแล้วขับจี้รัฐบาล สนับสนุนประชาชนมีส่วนร่วม รณรงค์และบังคับใช้กฎหมายลดอุบัติเหตุ

 



   


เมื่อวันที่ 9-10 ส.ค. 2568  มูลนิธิเมาไม่ขับ จัดการประชุมผู้นำเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับเพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาลด้านการจราจร โดยทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ อาทิเช่นการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจังเครื่องมือหยุดความตายบนท้องถนน โดยกฤดิทัช แสงธนโยธิน รองประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร, การสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อก้าวสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของเหยื่อเมาแล้วขับ โดยอาจารย์พิริยะ ทองสอน และคณะ ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน, เสวนาความตายบนท้องถนนความรับผิดชอบของคนรุ่นใหม่ หรือมรดกบาปของคนรุ่นเก่า โดยผู้ร่วมเสวนา อนุลักษณ์ เอี่ยมสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง, นรากร มณีฉาย นักศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์วิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, นางสาววรินท์พร สุขลาภ นักศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์วิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, ภารกิจท้าทายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดย ดร.เอกสิษฐ์  อัครศักดิ์กีรติ กรรมการมูลนิธิประชาปลอดภัย, ร่าง พรบ.แอลกอฮอล์ทิศทางจะไปทางไหน โดยนายธีระภัทร์ คหะวงศ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.ควบคุมแอลกอฮอล์ วุฒิสภา รวมทั้งยังจัดให้มีพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานเหยื่อเมาแล้วขับ ทั้งนี้โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด ( มหาชน ) โดยมีนางสาวสุวรรณา ประสงค์ตันสกุล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นประธานมอบทุน ทุนละ 3000 บาท 36 ทุน เป็น108,000 บาท  ที่ห้องเจ้าพระยาเทอเรซ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ



   


นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้จัดให้มีการประชุมเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับจากทั่วประเทศโดยหัวข้อหลักในการประชุมคือการสนับสนุนให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนช่วยในการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียทุกรูปแบบ เนื่องจากปัจจุบันประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนมีเครื่องมือสื่อสาร อาทิเช่นโทรศัพท์มือถือ กล้องหน้ารถ รวมไปถึงกล้อง CCTV ทั้งของภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐ สิ่งสำคัญพฤติกรรมผู้กระทำความผิดจะต้องมีหน่วยงานจัดการและมีผู้นำเสนอให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ แต่ถ้าผู้มีหน้าที่ยังไม่ดำเนินการมาตรการทางสังคมจะกดดันให้ผู้มีหน้าที่ต้องดำเนินการ และผู้ที่กระทำความผิดก็จะลอยนวลจากความผิดที่กระทำไม่ได้ เพราะภาพพฤติกรรมที่กระทำความผิดจะถูกเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลมีเดีย แม้จะรอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายแต่ไม่พ้นมาตรการทางสังคมที่กดดันจนไม่มีที่ยืน


    ทั้งนี้ทางเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะประเด็นการนำส่วนแบ่งค่าปรับผู้กระทำความผิดร้อยละ 50 มอบให้กับประชาชนผู้แจ้งพฤติกรรมผู้กระทำความผิด ซึ่งเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับเชื่อว่าจะเป็นเหตุจูงใจให้ประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร สอดส่องผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีพฤติกรรมขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่นบนท้องถนนซึ่งจะทำให้ถนนในประเทศไทยปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ใช้รถใช้ถนนจะเกิดความระมัดระวัง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนน เนื่องจากมีหูตาประชาชนคอยเฝ้าจับตามองเมื่ออยู่บนท้องถนน เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าว


     ทางด้านนายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆนี้มูลนิธิเมาไม่ขับได้จัดให้มีการประชุมเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับจากทั่วประเทศโดยหัวข้อหลักในการประชุมคือการสนับสนุนให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนช่วยในการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียทุกรูปแบบ เนื่องจากปัจจุบันประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนมีเครื่องมือสื่อสาร อาทิ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องหน้ารถ รวมไปถึงกล้อง CCTV ทั้งของภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐ สิ่งสำคัญพฤติกรรมผู้กระทำความผิดจะต้องมีหน่วยงานจัดการและมีผู้นำเสนอให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ แต่ถ้าผู้มีหน้าที่ยังไม่ดำเนินการมาตรการทางสังคมจะกดดันให้ผู้มีหน้าที่ต้องดำเนินการ และผู้ที่กระทำความผิดก็จะลอยนวลจากความผิดที่กระทำไม่ได้ เพราะภาพพฤติกรรมที่กระทำความผิดจะถูกเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลมีเดีย แม้จะรอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายแต่ไม่พ้นมาตรการทางสังคมที่กดดันจนไม่มีที่ยืนในสังคม


    ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ ยังเปิดเผยว่า เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะประเด็นการนำส่วนแบ่งค่าปรับผู้กระทำความผิดร้อยละ 50 มอบให้กับประชาชนผู้แจ้งพฤติกรรมผู้กระทำความผิด ซึ่งเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับเชื่อว่าจะเป็นเหตุจูงใจให้ประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร สอดส่องผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีพฤติกรรมขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่นบนท้องถนนซึ่งจะทำให้ถนนในประเทศไทยปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ใช้รถใช้ถนนจะเกิดความระมัดระวัง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนน เนื่องจากมีหูตาประชาชนคอยเฝ้าจับตามองเมื่ออยู่บนท้องถนน


      


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad