CEA ขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ 2568 ดันเมืองรองใช้ทุนวัฒนธรรมสร้างโอกาสใหม่ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568

CEA ขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ 2568 ดันเมืองรองใช้ทุนวัฒนธรรมสร้างโอกาสใหม่



 CEA ขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ 2568 ดันเมืองรองใช้ทุนวัฒนธรรมสร้างโอกาสใหม่

คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4,382 ล้านบาท

และพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ 17 จังหวัดทั่วประเทศ

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคที่ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “ทุนวัฒนธรรม” กลายเป็นทรัพยากรสำคัญ ทางเศรษฐกิจทำให้เมืองต่าง ๆ หันมาใช้จุดแข็งทางด้านวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทั้งอาชีพ รายได้ และยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เมืองให้มีความสามารถทางการแข่งขัน ในระดับโลก ด้วยความสำคัญนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่อย่างเข้มข้น ผ่านการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ และการขับเคลื่อนเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย หรือ Thailand Creative District Network (TCDN) พร้อมพัฒนา “คน” ให้เป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ผ่านการบ่มเพาะหลักสูตรพัฒนาเมืองและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผสานทุนวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับพลังสร้างสรรค์ระดับท้องถิ่นให้เป็นพลังทางเศรษฐกิจทั้งในมิติของผู้คน ธุรกิจ และพื้นที่ ผลักดันให้ทุกเมือง มีโอกาสเติบโต และทุกชุมชนสามารถเป็นเจ้าของ “แบรนด์เมือง” ได้จากรากฐานของตนเอง CEA คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ในปี 2568 มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,382 ล้านบาท และพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 17 จังหวัดทั่วประเทศ      

     

เปิดกลยุทธ์ CEA กับการเชื่อมเมืองหลัก เมืองรอง ให้กลายเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์

CEA ในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สู่ตลาดสากล ได้เล็งเห็นศักยภาพการพัฒนาเชิงพื้นที่ผ่านทุนวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมชุมชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน CEA ใช้ยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อน โดยสนับสนุนย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Districts) ในพื้นที่ที่เล็กที่สุด พลิกฟื้นย่านที่มีเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ โดยมีโครงการ ดังนี้

 เทศกาลสร้างสรรค์นานาชาติประจำภูมิภาค (International Creative Festival) แพลตฟอร์มนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และนักสร้างสรรค์ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประจำภูมิภาค โดยผสานทุนวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด เข้ากับพลังสร้างสรรค์ของคนในพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่และย่านในหลายมิติ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงเมือง ปัจจุบัน CEA จัดเทศกาลงานออกแบบประจำปีใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) และเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ซึ่งทุกเทศกาลล้วนเป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ โดยเพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยว การลงทุน และต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับปี 2568 มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) และเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) มีมูลค่าสูง ถึง 2,913.2 ล้านบาท และคาดว่าการจัดเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ในระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 7 กันยายน 2568 และเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) ในระหว่างวันที่ 6 - 14 ธันวาคม 2568 จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,469.2 ล้านบาท

 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Train the Maker) ภายใต้เครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (TCDN) หลักสูตรลงพื้นที่จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ขับเคลื่อนในพื้นที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้แนวทางการนำทุนวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นมาต่อยอด โดยการลงมือปฏิบัติจริงจะช่วยเสริมทักษะ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พร้อมพัฒนาจังหวัดในภูมิภาคของตนไปสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ในอนาคต ปีนี้ CEA มุ่งเน้นพัฒนา 8 จังหวัดเป้าหมายภายใต้เครือข่าย TCDN ได้แก่ ปัตตานี, แพร่, ภูเก็ต, จันทบุรี, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, สุรินทร์ และนครราชสีมา ซึ่ง CEA ได้ลงพื้นที่จัดฝึกอบรมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 5 จังหวัด โดยจังหวัดถัดไปที่จะมีการลงพื้นที่จัดหลักสูตรพัฒนา ได้แก่ พิษณุโลก และสุรินทร์ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 และนครราชสีมาในช่วงเดือนกันยายน 2568 

ผลลัพธ์เมืองสร้างสรรค์ไทย เมื่ออัตลักษณ์ท้องถิ่นสร้างโอกาสใหม่ให้เมืองรอง

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เผยว่าปัจจุบันเครือข่าย TCDN ที่ดำเนินการโดย CEA มีสมาชิกเครือข่ายสะสมจำนวน 34 จังหวัดทั่วประเทศ และได้สร้างผลลัพธ์เชิงบวกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยการการขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายท้องถิ่นที่หลากหลาย ทั้งในมิติการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การยกระดับผลิตภัณฑ์ การใช้พื้นที่สร้างโอกาสทางธุรกิจและวัฒนธรรม รวมถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทชุมชน เช่น งานซาวสีเกด 2567 (Sound of Sisaket 2024) เทศกาลศิลปะและดนตรีที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและศิลปินท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการพัฒนาเมืองศรีสะเกษให้เป็นเมืองแห่งดนตรีและศิลปะ เทศกาลปัตตานีดีโคตร 2567 (Pattani Decoded 2024) ที่เน้นการสื่อสารภาพลักษณ์ของเมืองปัตตานีด้วยเครื่องแต่งกายอันมีเอกลักษณ์ สะท้อนการเป็นศูนย์รวม ของความหลากหลายทางเชื้อชาติจนกลายเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมที่สำคัญ เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้ออกแบบและจัดแสดงผลงานเพื่อต่อยอดสู่การสรรสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังมี กิจกรรมออกแบบเส้นทางและการใช้พื้นที่สาธารณะในจังหวัดลำพูน เพื่อรองรับการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ของจังหวัดลำพูน เพื่อต่อยอดให้เกิดพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนกับธุรกิจสร้างสรรค์ในย่าน ซึ่งไม่เพียงสร้างพื้นที่พบปะของนักสร้างสรรค์ในระดับพื้นที่ ย่าน และเมือง แต่ยังส่งผลให้เกิดเครือข่ายในระดับประเทศและสากล อันนำไปสู่ การฟื้นฟูเมือง การพัฒนาคน และการต่อยอดสู่โอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

จากเรื่องเล่าสู่แบรนด์เมือง “ทิศทางใหม่ของเมืองสร้างสรรค์ไทย” ในระดับนานาชาติ

การพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ในระดับนานาชาติมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมืองสร้างสรรค์สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ผนึกกำลังผู้คนที่มีทักษะสร้างสรรค์และหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ช่วยกระตุ้นการต่อยอดทุนวัฒนธรรมสู่การสร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีโลก CEA จึงผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดประตูเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์โลก พร้อมสร้างมูลค่า ทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ดังนี้

 เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ปี 2568 CEA ส่งเสริมและสนับสนุนเมืองสร้างสรรค์ไทยให้มีบทบาทในเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกจำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ในฐานะเมืองสร้างสรรค์ ด้านอาหาร และจังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการสมัครเพื่อรับรองการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรี สำหรับจังหวัดเพชรบุรี หลังได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ ขององค์การยูเนสโก ในปี 2564 ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเครือข่ายสมาชิก UCCN เช่น กิจกรรม Cooking and Storytelling Competition: การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารและซอฟต์พาวเวอร์ไทย กิจกรรมการประกวดนี้ผสมผสานอาหารท้องถิ่นเข้ากับเรื่องเล่าชุมชน ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยใช้อาหารเป็นสื่อในการสร้างแบรนด์อาหารท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเปิดโอกาสทางธุรกิจ แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่โดยตรง ทางด้านจังหวัดศรีสะเกษ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเสนอเมืองเข้าร่วมเครือข่ายสมาชิก UCCN โดย CEA ได้สนับสนุนด้วยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต่อยอดศักยภาพ การเป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรี เช่น เทศกาลดนตรีซาวสีเกด (Sound of Sisaket) ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานเสียงดนตรีพื้นบ้านเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดเวทีสำหรับศิลปินท้องถิ่น ได้แสดงศักยภาพ สร้างปรากฏการณ์อุตสาหกรรมดนตรีอินดี้อีสานฟีเวอร์ ขยายตลาดดนตรีสร้างสรรค์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงอุตสาหกรรมภาพยนตร์และศิลปะ เพื่อหลอมรวมจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นของชาวศรีสะเกษ โดยเทศกาลนี้ยังเป็นผู้ชนะจากโครงการ “อวดเมือง 2568 The Pitching” ที่พร้อมเดินหน้าในฐานะจังหวัดนำร่องเทศกาลต้นแบบระดับประเทศ การขับเคลื่อนที่กล่าวมานี้ช่วยส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ไทยให้เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในเวทีโลก เปิดโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน พร้อมสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างเมืองสมาชิกของ UCCN ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน และครอบคลุมทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

 กิจกรรมพัฒนาผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025) CEA ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล สนับสนุนการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ให้เป็นอีกหนึ่งกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการจัดกิจกรรมพัฒนา ผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025) มุ่งให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมทั้งประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญไปสู่บุคลากรและทีมงานในระดับชุมชน ย่าน และเมืองทั่วประเทศ กิจกรรมนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเสริมองค์ความรู้ด้านแนวคิด เทรนด์ธุรกิจงานเฟสติวัล การสร้างสรรค์เนื้อหา และการบริหารจัดการเทศกาลให้ได้มาตรฐานระดับมืออาชีพ และยังประโยชน์ต่อชุมชนในระยะยาว โดยปีนี้มีการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ต้นแบบ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ 1. Columbo Creative Community Festival ที่จังหวัดขอนแก่น 2. เทศกาลเลยอาร์ตเฟส ที่จังหวัดเลย 3. เทศกาล Udon City Fest ที่จังหวัดอุดรธานี 4. เทศกาลฉาดเฟสติวัล จังหวัดพัทลุง ในวันที่ 22 - 24 สิงหาคม และ 5. เทศกาลมา หา เสน่ห์ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 สิงหาคม - 7 กันยายน จุดเด่นของกิจกรรม Festival Creator 2025 คือการสร้างพลัง และอัตลักษณ์ให้กับพื้นที่ ด้วยการจัดเทศกาลที่ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมระยะสั้น แต่ยังต่อยอดแรงบันดาลใจสู่การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในระยะยาว เกิดแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน และเครือข่ายในชุมชน ให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยน ส่งเสริม และฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำกิจกรรมสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดเป็นนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมืองในระยะยาว

CEA ยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์ในระดับพื้นที่ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เพียงพัฒนาพื้นที่ในเมืองใหญ่ แต่รวมถึงในเมืองรอง และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเติบโตบนฐาน ของวัฒนธรรมอันเข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดแนวคิดเมืองสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริงในทุกภูมิภาค ของประเทศ ด้วยการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ภายใต้เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้กลายเป็นต้นทุนที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ

 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานพัฒนาและขับเคลื่อนพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้ที่เว็บไซต์ creativecity.cea.or.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad