สืบสานงานพระราชดำริ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ด้านหัตถอุตสาหกรรมไทย “ดีพร้อม” หนุน 'งานฝีมือ' ให้เป็น 'พลังการค้า' แนะกลยุทธ์ Hand – Heritage – High Value - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568

สืบสานงานพระราชดำริ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ด้านหัตถอุตสาหกรรมไทย “ดีพร้อม” หนุน 'งานฝีมือ' ให้เป็น 'พลังการค้า' แนะกลยุทธ์ Hand – Heritage – High Value

 


พลิกฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก

 ชมความสำเร็จ VARNI Craft ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ “กระจูด” จากทุนพระราชทาน สู่แบรนด์หัตถศิลป์พรีเมียม ปั้น 250 ช่างฝีมือ สืบสานงานทรงคุณค่าของประเทศ

 ในยุคที่โลกเปลี่ยนไปสู่ความเร็วของเทคโนโลยีและการผลิตผ่านเครื่องจักรที่สามารถผลิตสินค้าได้หลายล้านชิ้นในเวลาอันสั้น สิ่งที่มีค่าที่สุดกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำซ้ำได้ง่าย นั่นคือ "ฝีมือมนุษย์" ที่บรรจงสานเรื่องราวและวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันในทุกรายละเอียด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ "ดีพร้อม" (DIPROM) มองเห็นโอกาสทองนี้ และกำลังเขียนบทใหม่ของงานหัตถกรรมไทย ด้วยการยกระดับจาก "งานฝีมือ" ที่มองว่าเป็นเพียงงานจากท้องถิ่น ให้กลายเป็น "หัตถอุตสาหกรรม" ที่มีพลังทางเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ โดยการสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงวางรากฐานการส่งเสริมงานหัตถกรรมไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อให้งานฝีมือไทยสามารถยกระดับชีวิตราษฎรและกลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

มรดกแห่งพระราชปณิธาน คือรากฐานของหัตถอุตสาหกรรมไทยสมัยใหม่

 ก่อนที่โลกจะหันมาให้ความสำคัญกับงานฝีมือและความยั่งยืน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลในการส่งเสริมงานหัตถกรรมไทย ทรงตระหนักว่า งานฝีมือไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ราษฎร โดยเฉพาะในกลุ่มสตรีและผู้ที่มีข้อจำกัดในการประกอบอาชีพหนัก พระองค์จึงได้ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมหัตถกรรมไทยต่าง ๆ มากมาย

 โดย “โครงการหุบกะพง” ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นสร้างอาชีพ เกิดขึ้นภายหลังที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงพระกรุณาให้จัดสรรที่ดินหุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี ให้ราษฎรทำกิน สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเล็งเห็นความต้องการหารายได้เสริมของกลุ่มแม่บ้านที่ทำงานหนักไม่ได้ จึงโปรดให้เปิดอบรมประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากป่านศรนารายณ์ พืชท้องถิ่นในพื้นที่ โดยประสานกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมส่งครูมาฝึกอบรม จนกลุ่มแม่บ้านสามารถสามารถผลิตสินค้าจำหน่ายได้ เช่น กระเป๋า หมวก เข็มขัด และรองเท้า “โครงการทอผ้านราธิวาส” ที่เกิดขึ้นเมื่อเสด็จประทับที่จังหวัดนราธิวาสในช่วงราคายางตกต่ำ และโปรดให้สร้างอาชีพเสริมด้วยการทอผ้า โดยพระราชทานกี่ทอผ้า เส้นฝ้าย และวัสดุ พร้อมให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอบรมด้านย้อมและทอ โดยยังทรงคาดการณ์อนาคตว่า เมื่อโลกประสบภาวะน้ำมันขาดแคลน งานหัตถกรรมและการทอผ้าด้วยมือจะกลับมามีความสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีการขยายผลสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพระราชทานตั้งกลุ่มทอผ้าฝ้ายขึ้น และทรงพระกรุณาพระราชทานกี่ทอผ้า สีเส้นด้าย อุปกรณ์การย้อมและการทอ อีกทั้งยังส่งครูจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไปให้การอบรม ซึ่งเป็นตัวอย่างของการสร้างเครือข่าย ถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ วางรากฐานการพัฒนาหัตถอุตสาหกรรมในวงกว้าง


ดีพร้อม สืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานผลักดันหัตถอุตสาหกรรมไทยสู่สากล

 จากแนวพระราชดำริที่ทรงเน้นการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น การพัฒนาทักษะของคนในชุมชน และการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่น และตอบโจทย์ตลาด "ดีพร้อม" (DIPROM) ภายใต้การนำของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้มุ่งสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเพื่อผลักดันหัตถอุตสาหกรรมไทย ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย โดยได้ดำเนินนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน เพื่อมุ่งเน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน พร้อมยกระดับศักยภาพบุคลากรและงานหัตถกรรมไทย ให้มีทักษะและองค์ความรู้ สู่การเป็นหัตถอุตสาหกรรมที่โดดเด่น โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3H คือHand (ฝีมือ) Heritage (มิติทางวัฒนธรรม) และ High Value (มูลค่าสูง) ซึ่งเป็นการปฏิวัติแนวคิด ผสานงานฝีมือไทยเข้ากับดีไซน์และนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อสร้างระบบนิเวศที่จะพาผู้ประกอบการงานหัตถกรรมไทยก้าวสู่การเป็นแบรนด์ร่วมสมัยที่โดดเด่นในตลาดระดับโลก

กลยุทธ์ Hand “ฝีมือช่างคือจุดแข็งที่ไม่มีใครทดแทนได้”

 ภายใต้กลยุทธ์ Hand ดีพร้อมได้สืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการยกระดับฝีมือช่างไทย ด้วยการอนุรักษ์และพัฒนาทักษะงานหัตถกรรมให้มีความประณีตและเชี่ยวชาญยิ่งขึ้น ผ่านการฝึกอบรมและยกระดับศักยภาพช่างฝีมือในสาขาต่าง ๆ เพื่อสร้างช่างที่สามารถผลิตผลงานได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งสนับสนุนการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสืบสานไม่ให้ภูมิปัญญางานฝีมือสูญหายไป

กลยุทธ์ Heritage สร้างเอกลักษณ์สินค้าไทยผ่านมรดกวัฒนธรรม

 ในส่วนของกลยุทธ์ Heritage ดีพร้อมได้นำแนวพระราชดำริที่ทรงแนะนำ มาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางสร้างอัตลักษณ์สินค้าไทย โดยการเชื่อมโยงเรื่องราว วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคเข้ากับงานหัตถกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหมายและมูลค่าเพิ่มขึ้น ทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสร้างงานที่ร่วมสมัยแต่ยังคงรากทางวัฒนธรรม พร้อมสื่อสารเรื่องราวเบื้องหลังเพื่อสร้างความผูกพันระหว่างงานและผู้บริโภค

กลยุทธ์ High Value สร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อแข่งขันในตลาดโลก

 ขณะที่กลยุทธ์ High Value ดีพร้อมได้สืบสานและขยายผลแนวพระราชดำริโดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ยกระดับงานหัตถกรรมให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน โดยผสานความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเข้ากับภูมิปัญญาดั้งเดิม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาผู้ประกอบการให้สร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ส่งเสริมให้งานหัตถกรรมไทยก้าวขึ้นเป็นพลังสำคัญในอุตสาหกรรม Soft Power ระดับโลก

 ดีพร้อมได้ผสานกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนางานหัตถกรรมไทย สู่การเป็นหัตถอุตสาหกรรม โดยในปี 2568 ได้ดำเนินการผ่านกิจกรรมพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) และ กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นจากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) โดยผู้เข้าร่วมล้วนสามารถผสมผสานระหว่างทุนทางวัฒนธรรมจากท้องถิ่นกับการออกแบบที่ร่วมสมัย และสร้างผลงานหัตถอุตสาหกรรมไทยที่สามารถเข้าถึงใจผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและตลาดสากล ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท

จากเสื่อกระจูดสู่ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยด้วยสายใยพระมหากรุณาธิคุณ

 หนึ่งในแบรนด์ที่เรื่องราวได้สะท้อนภาพแห่งพลังศิลป์และศรัทธา ที่เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงวางรากฐานการส่งเสริมงานหัตถกรรมไทยให้กลายเป็นอาชีพที่ยกระดับชีวิตราษฎรอย่างยั่งยืน คือ VARNI Craft โดยคุณมนัทพงค์ เซ่งฮวด ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ VARNI Craft จังหวัดพัทลุง เล่าว่า พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง ในปี 2542 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพบ้านป่าหัวเขียวขึ้น โดยทรงรับซื้อผลงานของชาวบ้านทุกชิ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรหลานผู้ประกอบศิลปาชีพ และจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

 “คุณแม่วรรณี เซ่งฮวด สมาชิกศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว เป็นผู้ได้รับพระราชทานทุนตั้งต้นจำนวน 15,000 บาท จากพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อจัดตั้ง “กลุ่มหัตถกรรมกระจูดวรรณี” และจากกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีชาวบ้านเพียง 7–8 คน ได้เติบโตเป็นกลุ่มช่างกว่า 250 คนในปัจจุบัน โดยหัตถกรรมจากกระจูด ได้กลายเป็นทั้งอาชีพและความภาคภูมิใจของคนในชุมชน ส่วนตัวเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับพระมาหากรุณาธิคุณเช่นกัน โดยได้รับทุนพระราชทานให้เรียนจนจบปริญญาตรี จึงตั้งใจกลับมาเพื่อพัฒนาชุมชน ด้วยการต่อยอดภูมิปัญญากระจูดพื้นบ้านให้ทันสมัยและยั่งยืน แบรนด์VARNI Craft จึงถือกำเนินขึ้นในปี 2555” นายมนัทพงค์ เล่าด้วยความปลื้มปิติ

 นายมนัทพงค์ เล่าต่อว่า VARNI Craft ทำงานเกี่ยวกับกระจูด วัชพืชที่เติบโตขึ้นในป่าพรุทะเลน้อย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายกว่าหลายร้อยปี เมื่อเห็นว่าอาชีพนี้สร้างผลิตภัณฑ์ได้เพียงเสื่อกระจูด ที่สามารถขายได้ในราคาแค่ผืนละ 100 บาท และกำลังจะสูญหายไปเพราะมีกลุ่มผู้สูงอายุเป็นผู้สานต่อเท่านั้น จึงเข้ามาพัฒนาโดยผสมผสานการออกแบบสมัยใหม่ พัฒนานวัตกรรมการย้อมสี การประยุกต์ลวดลายเป็นลายกราฟิกที่ทันสมัย ผ่านผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ตั้งแต่ของใช้ในบ้านอย่างโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ งานตกแต่งผนังโรงแรม ไปจนถึงสินค้าแฟชั่นอย่างกระเป๋า กระเป๋าคลัช และชุดเสื้อผ้า อีกทั้งแบรนด์ยังพัฒนาฝีมือช่างปักโดยนำศิลปะและการใช้สีมาสร้างความเป็นมิติให้ลวดลาย ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากราคาหลักร้อยให้เป็นหลักพันได้ และมีการส่งเสริมการปลูกกระจูดในพื้นที่ของชาวบ้านแทนการเก็บจากป่าที่อาจทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยปัจจุบันการปลูกกระจูดจึงถือเป็นพืชเศรษฐกิจของพื้นที่ ซึ่งช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้ชาวบ้าน ทั้งยังช่วยเก็บกักคาร์บอนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 “การเข้าร่วมโครงการส่งเสริมหัตถอุตสาหกรรมกับ "ดีพร้อม" เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยยกระดับ VARNI Craft ให้ก้าวไกลมากขึ้น ดีพร้อมได้ให้การสนับสนุนในหลากหลายมิติ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบ ที่ช่วยพัฒนาดีไซน์ให้ตอบโจทย์ตลาดสมัยใหม่ พร้อมปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน เปลี่ยนจากงานหัตถกรรมที่ผลิตได้น้อย และไม่สามารถคงคุณภาพในทุกชิ้นงานได้ สู่การเป็นหัตถอุตสาหกรรม ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงสามารถแข่งขันในตลาดพรีเมียมได้ โดยผลิตภัณฑ์ของ VARNI Craft มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทั้งคนวัยทำงาน นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานหัตถกรรมที่มีคุณค่าและเรื่องราว และยังมีการส่งออกไปต่างประเทศ ทั้งในญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา”

 ในปี พ.ศ. 2567 นายมนัทพงค์ได้รับเกียรติเป็นทายาทหัตถกรรมไทยสาขางานสานกระจูดพัทลุง โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) และมุ่งมั่นสานต่อพระราชปณิธาน โดยได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมกระจูดวรรณี เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่สนใจ นักท่องเที่ยว ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้งานหัตถกรรมกระจูด พร้อมต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านอำเภอควนขนุน อย่างมากมาย ความสำเร็จทั้งหมดนี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงประทานโอกาสให้ชาวบ้านธรรมดาลุกขึ้นสร้างคุณค่าด้วยสองมือตนเอง

 หัตถอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียงงานที่ทำด้วยมือ หากคือ งานที่ทำด้วยหัวใจ ที่สืบสานจากพระราชปณิธานแห่งความเมตตาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สู่การต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ และในวันนี้ ดีพร้อม เดินหน้าเปลี่ยนงานฝีมือท้องถิ่นให้กลายเป็นพลังการค้าเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับโลก ทำให้เรื่องราวของภูมิปัญญาไทยได้เปล่งประกาย และ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของไทยอย่างแท้จริง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad