AP ย้ำผู้นำบ้านเดี่ยวในเมือง ชี้จุดยืน ‘บ้านที่เข้าใจชีวิต’ ดันความสำเร็จ สวนกระแสพรีเซล 6 บ้านเดี่ยวใหม่ สร้างไม่ทันขาย 8 เดือนยอดขายรวมกว่า 21,420 ล้านบาท - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563

AP ย้ำผู้นำบ้านเดี่ยวในเมือง ชี้จุดยืน ‘บ้านที่เข้าใจชีวิต’ ดันความสำเร็จ สวนกระแสพรีเซล 6 บ้านเดี่ยวใหม่ สร้างไม่ทันขาย 8 เดือนยอดขายรวมกว่า 21,420 ล้านบาท

 


กรุงเทพฯ (15 ก.ย. 63  บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING' ที่มุ่งเติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิต ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย ตอกย้ำผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในเมือง ด้วยจุดยืน บ้านที่เข้าใจชีวิต’ เหนือกว่าด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการออกแบบพื้นที่ พร้อมเชื่อมต่อทุกเรื่องราวของทุกเจเนอเรชั่น  ภายใต้คอนเซ็ปต์ HYBRID LIVING บ้านเพื่อการใช้ชีวิตแบบไฮบริดที่ลงตัว เดินหน้าเปิดพรีเซล 6 บ้านเดี่ยวใหม่ สวนกระแสตลาดฯ สร้างไม่ทันขาย 2 วันกวาดยอดขายกว่า 1,000 ล้าน สร้างนิวไฮครั้งใหม่ยอดขายแนวราบรวม 8 เดือนกว่า 18,400 ล้านบาท จากยอดขายรวมที่ทำได้ 21,420 ล้านบาท อุ่นใจด้วยสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุนมากกว่า 49,330 ล้านบาท โดย 12,010 ล้านบาท มาจากสินค้าแนวราบที่รับรู้ทั้งหมดในปีนี้

นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญของบมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า "เอพี ไทยแลนด์เริ่มต้นธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 กว่า 15 ปีของการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง วันนี้บริษัทฯ พัฒนาบ้านเดี่ยวมาแล้วกว่า 80 โครงการ มูลค่าเกือบ 100,000 ล้านบาท กับแบบบ้านที่มีมากกว่า 50 โมเดล ส่งผลให้วันนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากรายได้หลักพันล้านสู่หลักหมื่นล้านในปี 2562 ที่มากถึง 10,227 ล้านบาท พร้อมวันนี้บ้านเดี่ยวเอพี ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2015-1H 2020) กับจุดยืนที่ว่า บ้านเดี่ยวเอพี คือ บ้านที่เข้าใจชีวิต’ ซึ่งถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญที่ส่งผลให้บ้านเดี่ยวเอพีประสบความสำเร็จในวันนี้และในอนาคต ผ่าน 3 แบรนด์คุณภาพ ได้แก่ THE PALAZZO คฤหาสน์หรูในเซ็กเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ ราคา 25-60 ล้านบาทขึ้นไป THE CITY บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่เซ็กเมนต์ไฮเอนด์ ราคา 9-25 ล้านบาท และ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซ็กเมนต์กลางบน ราคา 4.5-12 ล้านบาท” 

การที่เอพีสามารถครองอันดับหนึ่งสินค้าบ้านเดี่ยวในเมืองได้นั้น ส่วนสำคัญมาจากวิธีคิดในการทำงาน ภายใต้ค่านิยม Put People First คือการมองคนให้เป็นคน เข้าใจความต้องการ และรับฟังความคิดของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งถือเป็น ใน ค่านิยมของเอพีภายใต้พันธกิจใหญ่ EMPOWER LIVING กับความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ทุกพื้นที่ภายในโครงการบ้านเดี่ยวของเอพี สอดรับกับความต้องการและเชื่อมต่อทุกเรื่องราวชีวิตของลูกค้าในแต่ละเจเนอเรชั่นได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์ที่สุด”  นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวเสริม


นางพิมพรรณ ปรีชานนท์
 ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ และสร้างคอมมูนิตี้เกิดขึ้น ตลอดจนเพิ่มฟังก์ชันส่วนกลาง พื้นที่สีเขียวในโครงการ ความปลอดภัย และสังคมที่ดีในภาพใหญ่ให้เกิดขึ้นไปในขณะเดียวกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างให้บ้านเดี่ยวเอพีมีความแตกต่างและนำมาสู่ความสำเร็จ รวมถึงการต่อยอดจุดยืน บ้านที่เข้าใจชีวิต’ ไปสู่การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัยจนเกิดเป็นแนวคิด HYBRID LIVING นวัตกรรมบ้านที่เข้าใจการใช้ชีวิตแบบไฮบริด ผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่

1.      Cost-saving - นวัตกรรมเพื่อส่วนรวมกับพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับการทำกิจกรรมแบบจัดเต็มของคนทุกวัย โดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่าย ด้วยคลับเฮ้าส์พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power system) ทำงานผ่านระบบโซล่าเซลล์ที่อยู่ในส่วนบนของหลังคาคลับเฮ้าส์

 

2.      Security - นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยกับระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะภายในบ้าน ดูแลสมาชิกทุกคนตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว แจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมส่งเสียงไซเรนเตือนผู้บุกรุก กล้อง IP Camera ที่สามารถ Live Stream ภาพ เพื่อดูแลทุกสมาชิกครอบครัว ระบบ Digital Door Lock เปิด-ปิดประตูหน้าบ้านผ่าน Application พร้อม ระบบ Pin Code ชั่วคราวที่ใช้ได้ครั้งเดียวสำหรับแขกคนพิเศษ หรือปุ่มเรียกฉุกเฉินสำหรับยามคับขันสร้างความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยทุกวัย

 

3.      Comfort - นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายกับระบบสั่งการอัจฉริยะ Smart Home Gateway และ Security Module ภายในบ้านผ่านการเชื่อมต่อกับ ระบบควบคุมไฟแสงสว่าง (Lighting Control) ที่ทำงานควบคู่กับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ดูแลสนามหญ้าอย่างมือโปร หรือการควบคุมเครื่องปรับอากาศไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกบ้าน เป็นต้น

 

4.      Community – นวัตกรรมที่ดูแลคอมมูนิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Katsan Platform ผู้ช่วยคุ้มกันอัจฉริยะ อีกขั้นแห่งความอุ่นใจในการอยู่อาศัยภายในสังคมคุณภาพ ซึ่งจะทำหน้าที่คัดสรรบุคคล  ที่จะเข้ามาภายในโครงการ ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการอยู่อาศัย เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12-13 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดพรีเซลบ้านเดี่ยว โครงการใหม่ ได้แก่ 1) THE CITY สาทร-สุขสวัสดิ์ 2 ราคา 29.9-37 ล้านบาท 2) THE CITY พระราม 2-พุทธบูชา ราคา 9-15 ล้านบาท 3) THE CITY พระราม 9-รามคำแหง ราคา 11-25 ล้านบาท 4) THE PALAZZO ปิ่นเกล้า ราคา 35-60 ล้านบาท 5) CENTRO พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา ราคา 7.9-15 ล้านบาท และ 6) CENTRO ราชพฤกษ์-สวนผัก 2 ราคา 7.59-11 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดหมาย ประสบความสำเร็จสวนกระแสข่าวตลาดอสังหาฯ ถดถอย โดย 2 วันบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้าน โดยในบางโครงการสามารถปิดการขายได้หมด ตลอดจนบางโครงการบริษัทไม่สามารถสร้างบ้านได้ทันการขาย ซึ่งสะท้อนได้ถึงภาพกำลังซื้อในตลาดระดับบนยังคงมีอยู่ ตลอดจนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบ้านเดี่ยวเครือเอพี

สรุปแผนการดำเนินงานธุรกิจอสังหาฯ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวม เดือนกว่า 21,420 ล้านบาท จากเป้ายอดขายที่ 33,500 ล้านบาท โดย 18,400 ล้านบาทมาจากสินค้ากลุ่มแนวราบ คิดเป็น 82% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท โตขึ้น 15% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวม 100% JV มากถึง 19,960 ล้านบาท ด้านสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 49,330 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 12,010 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 37,320 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้อีกประมาณ 9,008 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566

ในไตรมาส กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเตรียมเปิดตัวโครงการอีกจำนวน โครงการ รวมมูลค่า 1,800 ล้านบาท ได้แก่ THE CITY บรมราชชนนี-ทวีวัฒนา มูลค่า 890 ล้านบาท และโครงการย่านสาธุประดิษฐ์ 1 มูลค่า 910 ล้านบาท รวมทั้งปีกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่า 20,430 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad