วันที่
9 ตุลาคม 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการ กขค. เปิดเผยว่า สำนักงาน กขค. ได้หารือร่วมกับ นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นางสาวอุบลวรรณ สุจริตกุล ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และคณะ กรณีผู้ประกอบธุรกิจเรือสปีดโบ๊ทบางราย ซึ่งมีเงินทุนสูงและประกอบธุรกิจหลายประเภท ลดราคาค่าบริการนำเที่ยวโดยเรือสปีดโบ๊ท ในเส้นทางภูเก็ต - หมู่เกาะพีพี ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวท้องถิ่น ที่มีธุรกิจเรือนำเที่ยวเพียงอย่างเดียวได้รับผลกระทบ เลขาธิการ กขค. กล่าวว่า เบื้องต้นในส่วนของสำนักงาน กขค. จะต้องรับฟังข้อเท็จจริงจากกลุ่มประกอบธุรกิจนำเที่ยวท้องถิ่น ในรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนที่แท้จริงของการบริการนำเที่ยวโดยเรือสปีดโบ๊ท หากพบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจที่ลดราคาค่าบริการจนอาจเข้าข่ายต่ำกว่าต้นทุน (Sale Below Cost) เพื่อกำจัดผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นให้ออกจากตลาด ซึ่งเป็นลักษณะการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ก็จะรับเป็นเรื่องร้องเรียนและเข้าสู่กระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริง และหากพิสูจน์ได้ว่ามีการขายต่ำกว่าทุนจริงก็จะถูกลงโทษ ซึ่งหากผู้กระทำความผิดเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาด จะเป็นโทษทางอาญาจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาด จะมีบทลงโทษทางปกครองในอัตราโทษปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
เลขาธิการ กขค. กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นดังกล่าวจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงหน่วยงานระดับท้องถิ่น ซึ่งหากพบการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 สำนักงาน กขค. ก็จะพร้อมดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น