กรุงเทพฯ 7 ตุลาคม 2567 – ‘พาลิน’ (Parin) แบรนด์นวัตกรรมความงามที่ประสบความสำเร็จจากการบุกน่านน้ำออนไลน์มาตลอด 3 ปีเต็ม โดดเด่นด้วยการเป็นผู้นำเทคโนโลยี ‘Beauty Gadgets’ โดยที่ผ่านมาพาลินมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ล้อไปกับภาพรวมตลาดความงามไทยในปีนี้ที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ คาดการณ์ว่า ตลาดความงามไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 3.4 แสนล้านบาท ขยายตัวราว 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ ‘พาลิน’ ในปีนี้ คือการเปิดเกมรุกบุกออฟไลน์เต็มตัว ด้วยงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท เพื่อมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับแบรนด์โดยตรง เริ่มตั้งแต่การเปิด Pop-up Store ในลักษณะ Roadshow Event แนะนำผลิตภัณฑ์หลัก 2 กลุ่มคือ Beauty Gadgets และ Skincare โดยมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมตั้งแต่นักเรียน -นักศึกษา วัยทำงาน ตลอดจนกลุ่ม ‘Silver Age’ ที่ต้องการการใส่ใจดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษได้สัมผัสกับอินโนเวทีฟ บิวตี้อย่างใกล้ชิด เน้นเจาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ เป็นต้น
นางสาวโสภิดา เมฆาวิชญ์ภาส ผู้จัดการแบรนด์พาลิน บริษัท คอสเซตเต้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า พาลินมีสินค้าครอบคลุมทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วยความหลากหลายของสินค้าและราคาที่จับต้องได้ทำให้พาลินเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครบทุกกลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา มีความสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องล้างหน้า ‘PARIN FAVOR INNOVATION’ 2. กลุ่มวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 26 ปีขึ้นไป มีความสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องกำจัดขน ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Multicolor Gen 1, Multicolor Gen 2, Multifunction Gen 3 และ ICONIC Gen 4 และ 3. กลุ่มวัยคุณแม่ มีความสนใจผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอย มีความสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องยกกระชับ PARIN MINI HIFU และ เครื่องนวดหน้ายกกระชับ Parin Re-Agingทั้งนี้พาลินมีการวิเคราะห์เก็บข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าผ่านขั้นตอนการทำ CRM หรือ Customer Relationship Management ทำให้พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า กลุ่มลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่ 24-28 ปี ให้ความสนใจเรื่องการจำกัดขน ซึ่งเครื่อง IPL ของพาลิน ตอบโจทย์ความต้องการประกอบกับความสะดวกสบายสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวให้แก่ตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ตั้งแต่ผิวหน้าและร่างกาย
นอกจากนี้แบรนด์ยังได้ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ Miss Universe Thailand 2023 และรองชนะเลิศอันดับ 1 Miss Universe 2023 นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนแรกของพาลิน ไอพีแอลด้วย เชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของแบรนดิ้งให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนฐานแฟนคลับที่หลากหลาย รวมถึงมายด์เซ็ตและนิยามความงามของแอนโทเนียที่มองว่า ความงามที่แท้จริงคือความมั่นใจ เหมือนกับสโลแกนของพาลิน ‘Beauty in you’ อยากดูดีให้เริ่มที่การดูแลตัวเอง
ที่ผ่านมา พาลินเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่
ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิ
วจากธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวั
ตกรรมใหม่ๆ กระทั่งประสบความสำเร็จจนเป็
นแบรนด์ ‘
Top of mind’ ยืนหนึ่งในตลาด Beauty Gadgets จากสินค้ากลุ่ม IPL อย่าง Multifunction Gen 3 และ ICONIC Gen 4 หลังแบรนด์เจาะตลาดผ่านช่องทางออนไลน์สำเร็จ ได้แก่ Shopee, Lazada, Line Shopping และ เว็บไซต์ https://www.parinthailand.com/ มาวันนี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง จึงนำมาสู่การบุกตลาดออฟไลน์เต็มตัว โดยเริ่มคิกออฟกิจกรรมโรดโชว์ ในรูปแบบเปิด ป๊อป อัพ สโตร์ (Pop-Up Store) ภายใต้แนวคิด “ผู้หญิงทุกคนสวยได้เหมือนยกคลินิกมาไว้ที่บ้าน” เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ก่อนตัดสินใจซื้อ รวมถึงลูกค้าที่เคยเห็นแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์จะได้มีโอกาสทดลองใช้งานจริงกับผลิตภัณฑ์ด้วย โดยปักหมุดที่แรกบริเวณโซน Q steps ชั้น 1 The PARQ Life ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2567
สำหรับเป้าหมายของพาลินหลังจากนี้ นางสาวโสภิดา ระบุว่า พาลินจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อยืนระยะในฐานะแบรนด์ ‘Top of mind’ จากสินค้าที่มีครบจบทุกความต้องการ นอกจากการรุกตลาดออฟไลน์แล้ว พาลินยังมีแผนขยายการเติบโตในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้ได้สร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจในประเทศลาวเรียบร้อยแล้ว คาดว่า ปี 2568 จะได้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของพาลินที่ประเทศลาวเป็นแห่งแรก“พาลินมุ่งมั่นสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำในฐานะแบรนด์ไทยคุณภาพสูง เน้นความเป็นธรรมชาติ และการดูแลสุขภาพผิวอย่างพิถีพิถัน พร้อมสื่อสารด้วยแนวทางที่เป็นมิตร เข้าใจง่าย เข้าถึงผู้คนทุกเพศทุกวัย ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น บทความเกี่ยวกับการดูแลผิว รีวิวผลิตภัณฑ์ และวิดีโอสั้น ซึ่งในอนาคตพาลินจะยังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับการดูแลตัวเองในรูปแบบผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับใช้ภายในบ้าน” นางสาวโสภิดา กล่าวปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น