“สตาร์ก” ผงาดคว้าแชมป์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” USGA เมเจอร์แรกในชีวิต – “เอรียา” จบที่ 9 ร่วม - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

“สตาร์ก” ผงาดคว้าแชมป์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” USGA เมเจอร์แรกในชีวิต – “เอรียา” จบที่ 9 ร่วม

 


มายา สตาร์ก
 โปรกอล์ฟสาวจากสวีเดน ผงาดคว้าแชมป์ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น พรีเซ็นเต็ด บาย แอลลาย ที่รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจบลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ มิถุนายน 2568 แม้จะเสียโบกี้ในสองหลุมสุดท้าย แต่ยังคงมีคะแนนเหนือกว่า เนลลี คอร์ดา มือ ของโลกชาวอเมริกัน และ ริโอะ ทาเคดะ จากญี่ปุ่น อยู่ สโตรก นับเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิต และเป็นการก้าวตามรอยรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง อันนิกา โซเรนสตัม และ ลีเซลอตต์ นอยมันน์ ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว

ด้าน “เม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์ปี 2018 เร่งเครื่องในรอบสุดท้าย คว้าอันดับ ร่วม ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจสำหรับแฟนกอล์ฟชาวไทย

การแข่งขันครั้งนี้เป็นการจัด ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ครั้งที่ 80 ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – มิถุนายน 2568 ถือเป็นเมเจอร์ลำดับที่สองของปี ชิงเงินรางวัลรวม 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 391.4 ล้านบาท โดยมีนักกอล์ฟหญิงไทยเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 11 คน และมีเพียงสองคนที่ผ่านการตัดตัวเข้าสู่รอบสุดท้าย ได้แก่ เอรียา จุฑานุกาล และ วิชาณี มีชัย

ในรอบสุดท้าย มายา สตาร์ก ออกสตาร์ตในฐานะผู้นำ ทำเบอร์ดี้ที่หลุม ก่อนเสียโบกี้ที่หลุม จากนั้นกลับมาทำเบอร์ดี้อีกที่หลุม 11 และ 14 แต่พลาดอีกสองโบกี้ในหลุม 17 และ 18 จบรอบด้วยสกอร์อีเวนพาร์ 72 รวมสี่วัน อันเดอร์พาร์ 281 คว้าแชมป์ไปครอง เหนือ คอร์ดา และ ทาเคดะ อยู่ สโตรก ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นแชมป์ที่สองของ สตาร์ก ในการเล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจากรายการ ISPS Handa World Invitational ที่ไอร์แลนด์เหนือเมื่อปี 2022

โปรสาววัย 25 ปี จากเมืองสกูรูป ประเทศสวีเดน เปิดใจหลังคว้าแชมป์เมเจอร์ว่า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือเรื่องจริง เพราะเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนยังรู้สึกว่าแชมป์เมเจอร์อยู่ไกลเกินเอื้อม สัปดาห์ที่แล้วความมั่นใจก็ลดลงอีก แต่เพื่อนสนิทของฉันบอกให้เชื่อมั่นในตัวเอง ฉันจึงพยายามทำให้ตัวเองและทีมภาคภูมิใจให้ได้”

มายา สตาร์ก คว้าแชมป์แรกของปีนี้ พร้อมเงินรางวัล 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 78.8 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมรายได้ในทัวร์ปีนี้อยู่ที่ 2,530,725 ดอลลาร์ หรือประมาณ 83.18 ล้านบาท เธอกลายเป็นนักกอล์ฟสวีเดนคนที่สามที่คว้าแชมป์รายการนี้ ต่อจาก อันนิกา โซเรนสตัม เจ้าของแชมป์ สมัย (1995, 1996, 2006) และ ลีเซลอตต์ นอยมันน์ (1988) และยังเป็นนักกอล์ฟยุโรปคนที่หกที่ได้แชมป์รายการนี้  นอกจากนี้ สตาร์ก ยังเป็นนักกอล์ฟสวีเดนคนที่สามที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้ ต่อจาก มาเดเลน ซักสตรอม (แมตช์ เพลย์) และ อิงกริด ลินด์บลัด (แอลเอ แชมเปียนชิพ)

เนลลี คอร์ดา พยายามไล่ล่าแชมป์เมเจอร์ที่สามในชีวิต แต่สุดท้ายทำได้เพียง อันเดอร์พาร์ 71 จาก เบอร์ดี้ เสีย โบกี้ รวมสี่วัน อันเดอร์พาร์ 283 คว้าอันดับสองร่วมกับ ริโอะ ทาเคดะ ซึ่งจบรอบสุดท้ายด้วยอีเวนพาร์ 72 ทั้งคู่รับเงินรางวัลคนละ 1.052 ล้านดอลลาร์ หรือราว 34.5 ล้านบาท

ชเว ฮเย-จิน จากเกาหลีใต้ ทำสกอร์ดีที่สุดในวันสุดท้ายที่ อันเดอร์พาร์ 68 จบอันดับ ร่วมกับ หยิน ยัวหนิง จากจีน และ มาโอ ไซโกะ จากญี่ปุ่น แชมป์ เชฟรอน แชมเปียนชิพ เมเจอร์แรกของปี โดยทั้งหมดทำสกอร์รวม อันเดอร์พาร์ 284

ด้านผลงานของนักกอล์ฟไทย เอรียา จุฑานุกาล จบรอบสุดท้ายด้วย อันเดอร์พาร์ 70 จาก เบอร์ดี้ เสีย โบกี้ รวมสี่วัน อันเดอร์พาร์ 286 จบอันดับ ร่วมกับ แองเจิล หยิน จากสหรัฐ และ ลินน์ แกรนท์ จากสวีเดน รับเงินรางวัลคนละ 281,341 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.2 ล้านบาท ถือเป็นการติดท็อป 10 เป็นครั้งที่ ของฤดูกาลนี้

เอรียา เปิดเผยหลังจบการแข่งขันว่า สนามยากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะวันนี้กรีนแข็งมาก แล้วยังมีลมด้วย โดยรวมถือว่าดีค่ะ เสียโบกี้ที่หลุม ซึ่งยากที่สุดในสนาม ส่วนเบอร์ดี้สองหลุมสุดท้ายต้องบอกว่าฟลุก หลุม 17 พัตต์ไกลลง หลุม 18 ธงตั้งยาก แต่ตีมาอยู่หน้ากรีนแล้วพัตต์ลงสองที ดีใจที่เกมดีขึ้น โดยเฉพาะลูกสั้นในช่วงสองสามสัปดาห์นี้”

สำหรับ แจน – วิชาณี มีชัย อีกหนึ่งตัวแทนไทยในรอบสุดท้าย จบรอบสุดท้ายด้วย โอเวอร์พาร์ 80 รวมสี่วัน 19 โอเวอร์พาร์ 307 จบอันดับ 60 รับเงินรางวัล 25,797 ดอลลาร์ หรือประมาณ 847,947 บาท

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.usga.org

เครดิตภาพ: USGA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad