“จตุพร” รมว.พาณิชย์. MOC หารือหน่วยงานเชียงใหม่ เร่งมาตรการช่วยชาวสวนลำไย เพิ่มเป้าส่งออกและขยายตลาดอินเดีย ยูเออี เชื่อมั่นศักยภาพตลาดในประเทศ ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

“จตุพร” รมว.พาณิชย์. MOC หารือหน่วยงานเชียงใหม่ เร่งมาตรการช่วยชาวสวนลำไย เพิ่มเป้าส่งออกและขยายตลาดอินเดีย ยูเออี เชื่อมั่นศักยภาพตลาดในประเทศ ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย”

 


“จตุพร” รมว.พาณิชย์ หารือหน่วยงานเชียงใหม่ เร่งมาตรการช่วยชาวสวนลำไย เพิ่มเป้าส่งออกและขยายตลาดอินเดีย ยูเออี  เชื่อมั่นศักยภาพตลาดในประเทศ ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย”


วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในตลาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ตลาดต้นพยอม และตลาดวโรรส  และได้ใช้โอกาสนี้หารือสถานการณ์ผลผลิตลำไยซึ่งอยู่ในช่วงต้นฤดู โดยเปิดเผยว่า “วันนี้ผมได้ถือโอกาสเยี่ยมเยียนพ่อค้า แม่ค้าในตลาดใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ เพื่อดูสถานการณ์การค้าพบว่าปัจจุบันทั้ง 2 ตลาดยังมีนักท่องเที่ยวและผู้ซื้อคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าก็มีการนำสินค้าสดใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดมาจำหน่ายอย่างคับคั่ง อาทิ แคปหมูน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว กาละแม ซึ่งเป็นที่นิยมที่นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝาก”



นายจตุพร กล่าวต่อว่า “ผมใช้โอกาสนี้พบปะหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ สหกรณ์การเกษตรจอมทอง สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ สหกรณ์พืชผักผลไม้เพื่อการตลาดจังหวัดเชียงใหม่ จำกัด ร่วมหารือแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดยทางเกษตรกรได้สะท้อนปัญหาและข้อเรียกร้องที่สำคัญหลายประเด็น อาทิ การขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยวลำไย และต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนงบประมาณพัฒนา มาตรฐานโรงคัดบรรจุและโกดัง (GMP, HACCP) เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก ขณะเดียวกัน เสนอให้รัฐสนับสนุนผู้ประกอบการโรงอบและผู้ส่งออกลำไยสดรายใหม่ ๆ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากโครงการ ธ.ก.ส. และขอให้ภาครัฐเร่งผลักดันโควตาส่งออกไปอินโดนีเซีย รวมถึงการสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ เช่น ตะกร้า 5 กิโลกรัม และกล่อง 10 กิโลกรัม สำหรับขายตรงออนไลน์


รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดแนวทางเร่งด่วนหลายมาตรการสำหรับสินค้าลำไย อาทิ เปิดจุดจำหน่ายลำไยที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และหน่วยงานอื่น ๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 กระจายผลผลิตผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ รวมถึง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้กิจกรรม Thai Fruits Festival เชื่อมโยงกับห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างโมเดิร์นเทรด ตลาดกลาง ตลาดสด รวมถึงการจัดกิจกรรม Pre-Order และ CSR จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สนับสนุนกล่องไปรษณีย์และตะกร้าให้สถาบันเกษตรกรผ่าน สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ซึ่งเชื่อว่าผลผลิตที่จะออกมา เรามีตลาดรองรับ และจะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้อย่างแน่นอน


ในส่วนข้อเสนอเรื่องการส่งออก กระทรวงพาณิชย์มีกิจกรรมในการเร่งผลักดันการส่งออกในช่วงผลผลิตออกมาก โดยตั้งเป้าหมายส่งออกลำไยทั้งสดและแปรรูป รวม 65,000 ตัน โดยเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) ซึ่งมีการจัดกิจกรรม Business Matching สินค้าลำไยแล้วมูลค่า 200 ล้านบาท และยังมีการติดตามโควตาการส่งออกไปอินโดนีเซีย โดยการเชื่อมโยงเจรจาการค้าไปอินโดนีเซีย ระหว่างฑูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัด ช่วง มีนาคมถึงเมษายน 2568 และ ระหว่าง 8-9 กรกฎาคม 2568 ทำให้ผู้ส่งออกในจังหวัดลำพูน ได้โควตาไม่อั้นจากอินโดนีเซีย และนอกจากอินโดนีเซีย จะมีการขยายตลาดไปยังอินเดีย และประเทศในตะวันออกกลาง อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย”


นายจตุพร กล่าวย้ำถึง “นโยบายหลัก ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย จะทำให้ผลผลิตลำไยของพี่น้องเกษตรกรปีนี้ได้มีตลาดรองรับทั่วประเทศ และประชาชนได้ช่วยสนับสนุนเกษตรกรได้โดยตรงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ  ในส่วนของภาคการผลิต มอบหมายให้กรมการค้าภายในดำเนินการ ลดราคาปุ๋ยและปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โดยจัดเป็นสินค้าธงเขียว  เพื่อลดต้นทุนให้เกษตรกรให้ได้มากที่สุดเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งเตรียมหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคมนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาแรงงานภาคการเกษตร โดยเฉพาะแรงงานเก็บลำไย และกำหนดมาตรการช่วยเหลือลำไยทั้งระบบ”


สำหรับปี 2568 ปริมาณผลผลิตลำไยของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 443,622 ตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.32 จากปี 2567 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดในเดือนสิงหาคม จำนวน 164,577 ตัน คิดเป็นร้อยละ 37 ของผลผลิตทั้งหมด ขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณร้อยละ 8 หรือ 22,409 ตัน กระจายในพื้นที่ อำเภอจอมทอง ดอยหล่อ แม่วาง สันป่าตอง ฮอด และดอยเต่า โดยปัจจุบันราคาลำไยจังหวัดเชียงใหม่ล่าสุด (12 กรกฎาคม 2568) ลำไยสดรูดร่วง เกรด AA ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 19 ถึง 20 บาท เกรด A ราคา 10 ถึง 11 บาท เกรด B ราคา 5 ถึง 6 บาท และเกรด C ขนาดไม่เกิน 20 มิลลิเมตร ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1 บาท ลำไยสดช่อ (ตะกร้าขาว อินโดนีเซีย) เกรดทองราคา 25 บาทต่อกิโลกรัม เกรดแดง 22 บาทต่อกิโลกรัม เกรดน้ำเงิน 17 บาทต่อกิโลกรัม และเกรดเขียว 8 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนลำไยสดมัดปุ๊ก เกรด AA บวก A ราคา 18 ถึง 20 บาทต่อกิโลกรัม และเกรด A บวก B ราคา 12 ถึง 15 บาทต่อกิโลกรัม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad