บมจ.โรงพยาบาลนครธน (NKT) เดินหน้ากลยุทธ์ขยายการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งการก่อสร้าง “โรงพยาบาลนครธน 2” และ “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์” พร้อมเพิ่มจำนวนเตียงอีก 95 เตียง รองรับความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น คาดรายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่อง รับกระแสการขยายตัวของธุรกิจสุขภาพและนโยบาย Medical Hub ของประเทศ
รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) (
NKT) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนเชิงรุกเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจบริการสุขภาพในระยะยาว โดยมีแผนลงทุนหลัก 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 ตั้งอยู่บนถนนเอกชัย จำนวน 151 เตียง มีความคืบหน้าแล้วกว่า 98% คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในเดือนธันวาคม 2568 นี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมถึงเตรียมยื่นขอเข้าร่วมระบบ ประกันสังคม ในปี 2570
2.โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ (Nakornthon Long Life Center) ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธนมีความคืบหน้า 52% คาดเปิดดำเนินการในปี 2568 ภายในศูนย์จะมีบริการดูแลผู้สูงอายุทั้งระยะสั้นและระยะยาว เดย์แคร์ ฟื้นฟูสภาพร่างกาย กายภาพบำบัด รวมถึงพื้นที่พักผ่อนพร้อมพื้นที่สีเขียว รองรับสังคมสูงวัยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
3.โครงการขยายจำนวนเตียงโรงพยาบาลนครธน (แห่งปัจจุบัน) เพิ่มจำนวน 95 เตียง จากเดิม 150 เตียง อยู่ระหว่างการปรับปรุงหอพักผู้ป่วยใน VIP Royal Ward ชั้น 12 โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนมกราคม 2569 ปัจจุบันมีความคืบหน้า 45% ส่วนเฟสสองจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 การขยายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ทันทีจากการให้บริการวอร์ดวีไอพี รวมถึงรองรับผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งมีการปรับปรุงห้องคลอดใหม่ซึ่งแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยและสวยงามมากขึ้น มีระบบการเข้าออกแบบดิจิทัล เพื่อสร้างความพึงพอใจในการให้บริการและเป็นมาตรฐานสากล
แพทย์หญิง ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า โรงพยาบาลได้เดินหน้าพั
ฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างต่
อเนื่อง ล่าสุดได้ติดตั้งระบบ
O-arm Navigator ซึ่งเป็นนวัตกรรมช่วยนำวิถีการผ่าตัดกระดูกสันหลัง เพิ่มความแม่นยำ ลดภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมทัพทีมแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา รวมทั้งหมด 13 สาขา เพื่อรองรับความต้องการรักษาที่หลากหลาย ทั้งผู้ป่วยในประเทศและต่างชาติ
"NKT คาดว่าในปีนี้และปีหน้า รายได้จะเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และการขยายฐานผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลมีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยต่างชาติอย่างใกล้ชิด รองรับนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาล เรามุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และบริการที่ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญในอนาคต”
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาล 3/2568 บริษัทฯมีรายได้รวม 525.5 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) จำนวน 83.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนต่อรายได้ที่ 16% และมีกำไรสุทธิ 62.4 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนปี 2568 มีรายได้รวม 1,517.7 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ที่ 214.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 160.6 ล้านบาท
"แม้เผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เรายังคงบริหารงานอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ สะท้อนผ่านอัตราส่วน P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจสุขภาพ (9.47 เท่า และ 1.12 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 20.42 เท่า และ 2.55 เท่าตามลำดับ) ขณะที่ยังคงมีแนวทางจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับผลการดำเนินงานด้วยมาตรฐานธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่งและโปร่งใส เชื่อมั่นว่าสามารถต่อยยอดโอกาสการเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนเมื่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ "แพทย์หญิง ศิเรมอร กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น