ทองคำกำลังส่องแสง ‘เจิดจ้าเหมือนเพชร’ และอาจแตะ 3,000 ดอลลาร์ได้ Citi กล่าว - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2567

ทองคำกำลังส่องแสง ‘เจิดจ้าเหมือนเพชร’ และอาจแตะ 3,000 ดอลลาร์ได้ Citi กล่าว



 ราคาทองคำยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายวันหลังจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางปะทุขึ้น ซึ่งส่งผลให้ทองคำแท่งเป็นที่หลบภัย

ราคาทองคำปิดสถิติอีกครั้งในวันจันทร์ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่มีการซื้อขายมากที่สุดในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.37% สู่ระดับ 2,383 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และบางคนบอกว่ายังเหลือพื้นที่ให้ดำเนินการอีก

“การขึ้นของทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ได้รับความช่วยเหลือจากความร้อนแรงทางภูมิรัฐศาสตร์ และสอดคล้องกับระดับดัชนีหุ้นที่เป็นประวัติการณ์” Citi เขียนในบันทึกลงวันที่ 15 เมษายน

ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากที่อิหร่านยิงโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นได้ ต้องขอบคุณระบบป้องกันภัยทางอากาศไอรอนโดม ของอิสราเอล

ผู้เฝ้าดูตลาดกำลังจับตาดูการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นโดยรัฐยิวอย่างใกล้ชิด ซึ่งให้คำมั่นว่าจะ ”กำหนดราคาที่แน่นอน” จากอิหร่าน

Bartosz Sawicki นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทให้บริการทางการเงิน Conotoxia fintech กล่าวว่าการตอบโต้ที่สำคัญอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้เกิดการซื้อทองคำครั้งใหม่ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

เราคาดการณ์ว่าทองคำจะอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ในช่วง 6-18 ล้านดอลลาร์ข้างหน้า

ทองคำซึ่งยังคงมูลค่าไว้เพื่อป้องกันอัตราเงินเฟ้อ มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เมื่อนักลงทุนย้ายออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ตราสารทุน

ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,448.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ระหว่างวันศุกร์ที่ผ่านมา

ราคาทองคำสปอตทรุดโทรมลงตั้งแต่ต้นปี โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับปัจจัยหนุนหลายประการเช่น การกระจายตัวของธนาคารกลางทั่วโลกความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความคาดหวังของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ 

ราคาทองคำมักจะมีความสัมพันธ์ผกผันกับอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทองคำจะมีความน่าดึงดูดมากขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนลดลง

อัตราเงินเฟ้อที่ร้อนเกินคาดในเดือนมีนาคมส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนถึงเดือนกันยายนและตอนนี้ความคาดหวังคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งแทนที่จะเป็นสามครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad