วันที่ 29 สิงหาคม 2567, กรุงเทพมหานคร – ดีป้า เผยแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2568 ในงาน ‘depa Digital Intelligence’ ภายใต้แนวคิด Perform Better, Think Faster and Live Better ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงและเลือกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างชาญฉลาดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า
แถลงแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2568 ในงาน ‘depa Digital
Intelligence’ ภายใต้แนวคิด Perform Better, Think Faster
and Live Better ณ อาคาร ดีป้า (สำนักใหญ่แห่งใหม่)
ซอยลาดพร้าว 10 เขตจตุจักร โดยมี
คณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร รวมถึงสื่อมวลชนร่วมรับฟังการแถลงในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียง
ผศ.ดร.ณัฐพล
เปิดเผยว่า ปี 2568 ดีป้า จะยังคงดำเนินงานภายใต้แนวคิด Perform Better, Think
Faster and Live Better หรือการส่งเสริมให้ประชาชนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและเลือกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างชาญฉลาดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น
โดย ดีป้า จะให้ความสำคัญกับ
การยกระดับกำลังคนและบุคลากรดิจิทัลของประเทศ โดยสานต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัล
ที่สำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 อย่าง ‘โค้ดดิ้ง’
แก่ประชาชนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย มุ่งสร้างกำลังคนดิจิทัลในกลุ่มนิสิตและนักศึกษา
รวมถึงบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 2 ปีในสาขา IT และ Non IT ที่ต้องการเข้ามาทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความพร้อมโดยการส่งเสริมทักษะที่ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม
และสอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพสากลก่อนป้อนเข้าสู่ระบบ
ภายใต้โครงการรัฐร่วมเอกชนส่งเสริมทักษะใหม่
ที่ดำเนินการผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการให้ทุนการศึกษาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
นอกจากนี้ ดีป้า
จะขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ พร้อมส่งเสริมการผลิตภาพยนตร์สั้น
หนังใบ้ที่สร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการดำเนินโครงการสำคัญอย่าง
depa ESPORTS กลไก
การพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม ESPORTS ของไทย รวมถึงการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
ทั้งการส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในทุกระยะการเติบโต
การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับกลไกบัญชีบริการดิจิทัล (Thailand Digital
Catalog) มาตรฐาน dSURE
โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ตลอดจนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย
แผนส่งเสริมเทคโนโลยี Blockchain และ Quantum
Computing รวมถึงโครงการเรือธงอย่าง 1 ตำบล 1
ดิจิทัล (OTOD) (ชุมชนโดรนใจ)
1 ตำบล 1 ดิจิทัล (สมาร์ทลีฟวิ่ง) และ 1
ตำบล 1 ดิจิทัล (ทุเรียนดิจิทัล)
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวถึงการดำเนินงานตลอดระยะเวลา
8 ปีที่ผ่านมาว่า ดีป้า ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ รวมกว่า 1,560 โครงการ ผ่าน 13
มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนของสำนักงานฯ รวมวงเงินอนุมัติกว่า 1,930 ล้านบาท สามารถสร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 24,300 ล้านบาท โดย ดีป้า ดำเนินงานตามแผนส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลทุกมิติทั้งการยกระดับกำลังคนและบุคลากรดิจิทัล
การเปลี่ยนเศรษฐกิจดั้งเดิมสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การสร้างโอกาสใหม่และกระจายความเจริญอย่างเท่าเทียม
และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
สำหรับแนวทางการยกระดับกำลังคนและบุคลากรดิจิทัลของ
ดีป้า แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะยาวกับโครงการ Coding Thailand ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 รวมถึงโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโค้ดดิ้ง
และล่าสุดกับโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย
ระยะกลางกับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการให้ทุนการศึกษาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
ระยะสั้นกับโครงการ CONNEXION ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการใช้ดิจิทัลคอนเทนต์เพื่อสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแก่บรรดาผู้ประกอบการผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อต่าง
ๆ เช่น การสร้าง Storytelling การ Live ขายสินค้า การเปิดร้านค้าใน Social Commerce การใช้ข้อมูลวิเคราะห์ช่องทางขายสินค้าออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์ม eTailligence ฯลฯ
การเปลี่ยนเศรษฐกิจดั้งเดิมสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
โดยการยกระดับ Formal
Sector เพื่อ Transform Informal
Sector ผ่านการมุ่งพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
การส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพ การเปลี่ยนอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิมสู่ฮาร์ดแวร์ที่มีซอฟต์แวร์ฝังตัว
รวมถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังได้จัดทำบัญชีบริการดิจิทัลที่รวมสินค้าและบริการจากดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
ตามข้อกำหนดมาตรฐาน dSURE โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลแล้วกว่า
400 รายการ สำหรับการสร้างโอกาสใหม่และกระจายความเจริญอย่างเท่าเทียม ดีป้า
ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมผ่านบัญชีบริการดิจิทัล
เมืองสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชนได้ตรงจุด
สุดท้ายคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการ Thailand Digital
Valley ศูนย์กลางการออกแบบ พัฒนา วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลองเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(ASEAN Digital Hub) ล่าสุดกับอาคาร Digital Startup
Knowledge Exchange Center อาคารแห่งที่สองของโครงการฯ ที่เปิดให้บริการแล้วและได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะ CENTERPOINT พื้นที่เรียนรู้ด้านดิจิทัล ขนาดพื้นที่
150 ตารางเมตรบนชั้น 3 ของอาคาร
ขณะที่อาคาร Digital Innovation Center, Digital Edutainment Complex และ Digital Go Global Center
คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2568
“ดีป้า
มุ่งผลักดันให้คนไทย Perform Better, Think Faster and Live Better
หรือส่งเสริมให้ประชาชนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและเลือกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างถูกต้องและชาญฉลาด
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า
กล่าว
ทั้งนี้ ดีป้า พร้อมทำงานเพื่ออนาคตของคนไทยและเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้อยู่ในระดับชั้นนำของโลก
ตามวิสัยทัศน์ “We
work smart every day to build a world-class digital economy and to help people perform better, think faster and live better.” ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารต่าง
ๆ ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของ ดีป้า ไม่ว่าจะเป็น www.depa.or.th,
LINE OA: depaThailand และ Facebook Page: depa Thailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น