IdeasLabsเปิดอินไซด์3กลุ่มInfluencerไทยกวาดรายได้รวมกว่า 60% แบรนด์ยอมจ่ายเฉลี่ยดีลละ1แสนบ.คาดครึ่งปีหลังแบรนด์กลุ่มF&Bเปย์หนักสุด - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

IdeasLabsเปิดอินไซด์3กลุ่มInfluencerไทยกวาดรายได้รวมกว่า 60% แบรนด์ยอมจ่ายเฉลี่ยดีลละ1แสนบ.คาดครึ่งปีหลังแบรนด์กลุ่มF&Bเปย์หนักสุด

 



•      IdeasLabs เผยอินไซด์ครึ่งปีแรกตลาด Influencer Marketing ในไทยเข้าสู่ยุคแห่ง“มาตรฐานใหม่” ของธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนมากกว่าการสร้างกระแสและจำนวนยอดไลก์ การเข้าถึง Data - Platform - Planning เป็นแต้มต่อของแบรนด์ในยุค Digital Sales

•      เผยตัวเลขครึ่งปีแรกยอดขายผ่านแคมเปญที่ใช้ Publisher Services และ KOL เติบโตเฉลี่ยเกือบ 46% บางเดือนมีโตเกือบ 70% Influencer 3 กลุ่มหลักสุดอู้ฟู่สร้างรายได้รวมกันกว่า 60% ได้แก่ 1. กลุ่ม Food&Beverage 2. Retail&Lifestyle)และ 3. Beauty&Wellness

•      มองเทรนด์ครึ่งปีหลังตลาด Influencer Marketing แข่งเดือดรับ High Season คาดใช้บริการหลักยังเป็นกลุ่ม Food & Beverage ชี้แบรนด์ที่เริ่มขยับตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 จะสร้างยอดขายได้ดีกว่า

 

 


นายธนดล พิทยานุวัฒน์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอเดียแล็บ จำกัด (IdeasLabs) MarTech Solution สัญชาติไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 ตลาด Influencer Marketing ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มแบรนด์ที่ใช้ “Publisher Services” ซึ่งเป็นโมเดลการตลาดผ่าน KOL ที่มีระบบวางกลยุทธ์อย่างเป็นระบบและสามารถวัดผลได้จริง ซึ่งโมเดล Publisher Services ในปีนี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่เพียงการจ้าง KOL แล้วหวังผลอีกต่อไป แต่คือการวาง “โครงสร้างการตลาดแบบใหม่” ที่เชื่อมโยงข้อมูล กลยุทธ์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของการตลาดไทย ที่กำลังเข้าสู่ยุคที่ KOL คือ infrastructure ของการเติบโต ไม่ใช่แค่เครื่องมือชั่วคราวอีกต่อไป

โดยหัวใจของความสำเร็จในการทำ Influencer Marketing ก็คือการเข้าถึง Data + Platform + Planning = แต้มต่อของแบรนด์ในยุค Digital Sales ท่ามกลางตลาดที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 91.2% ของประชากร และบัญชีโซเชียลมีเดียมากถึง 51 ล้านบัญชี ดังนั้นกลยุทธ์ Influencer Marketing ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและระบบวัดผลจะกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนมากกว่าการสร้างกระแสและจำนวนยอดไลก์


จากข้อมูลโดย IdeasLabs บริษัทผู้พัฒนา MarTech Ecosystem ชั้นนำของไทย พบว่าแคมเปญที่ “ปิดดีลสำเร็จ” (Close Won) ในช่วง 6 เดือนแรก มีจำนวนรวมกว่า 400 แคมเปญ โดยมูลค่าตลาดรวมของแคมเปญเติบโตจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกเดือนตลอดครึ่งปีแรก 2025 ยิ่งตอกย้ำภาพรวมของโมเดลนี้อย่างชัดเจน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 พบว่า ยอดขายผ่านแคมเปญที่ใช้ Publisher Services และ KOL เติบโตเฉลี่ยเกือบ 46% ซึ่งในบางเดือนมีการเติบโตสูงถึงกว่า 70% ซึ่งถือเป็นอัตราเร่งที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ แคมเปญที่ปิดดีลได้ครอบคลุมแพคเกจที่มีช่วงราคาหลากหลาย ตั้งแต่ประมาณ 20,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาทต่อแคมเปญ มีค่าเฉลี่ยต่อดีลอยู่ที่ราว 100,000 บาท ซึ่งสะท้อนถึงการที่ Publisher Services และการใช้ KOL สามารถปรับใช้ได้กับทั้งแบรนด์ขนาดใหญ่ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน และแบรนด์ขนาดกลางที่เน้นคุ้มค่าและการวัดผลเป็นหลัก


โดยมี 3 กลุ่ม Influencer Marketing ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าและเติบโตอย่างโดดเด่น ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จนคิดเป็นสัดส่วน 62.48% ของรายได้จาก Publisher Services ทั้งหมดได้แก่

1. อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) สร้างรายได้ 30.47%

2. ค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ (Retail & Lifestyle) สร้างรายได้ 19.84%

3. ความงามและสุขภาพ (Beauty & Wellness) สร้างรายได้ 12.17%

“สำหรับกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจ Influencer Marketing ในยุคนี้จะต้องผสานเทคโนโลยีไปกับเนื้อหาที่วัดผลได้จริง นั่นคือหัวใจของความสำเร็จ ซึ่งสะท้อนถึงเทรนด์ใหม่ในวงการการตลาดยุคดิจิทัล ที่ไม่ได้วัดจากจำนวนผู้ติดตามหรือยอดวิวเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่พิจารณาจาก “ความสามารถในการกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภค” อย่างมีประสิทธิภาพ” นายธนดล กล่าว

นอกจากนี้ IdeasLabs ยังได้มุ่งเน้นรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด F&B และ Retail & Beauty โดยได้เตรียมเร่งเครื่องอัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าในช่วงปลายปีโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล และปลายปี ที่ถือเป็น High Season สำคัญของหลายธุรกิจ ด้วยการช่วยวางแผนให้องค์กรเริ่มวางกลยุทธ์ Influencer ตั้งแต่ไตรมาส 3 เพราะจะทำให้ได้เปรียบในการบริหารต้นทุน สร้างยอดขาย และแปลง Engagement เป็น Conversion ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันคาดว่าทิศทางในครึ่งหลังปี 2025 ซึ่งเป็น High Season ของ Influencer ที่วัดผลได้จริงแนวโน้มในไตรมาส 3 และ 4 จะเป็นไปในทิศทางที่ แบรนด์ในกลุ่ม F&B และ Beauty จะยังคงลงทุนในแคมเปญ Influencer Marketing อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล และปลายปี ที่ถือเป็น High Season สำคัญของหลายธุรกิจ

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ชัดเจนจากข้อมูลครึ่งปีแรกคือแบรนด์ที่วางแผนล่วงหน้ามีประสิทธิภาพในการใช้ KOL สูงกว่าชัดเจนระบบที่สามารถวัดผล (เช่น API กับ Line OA หรือระบบ Tracking Conversion) เป็นปัจจัยสำคัญในการขยายผลเครือข่าย Publisher ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคไทย สามารถทำหน้าที่ได้มากกว่า media placement

“ในภาพรวม กลุ่ม F&B ยังคงเติบโตสูงสุด ด้วยจำนวนแคมเปญที่ปิดดีลมากกว่า 100 รายการ ความโดดเด่นอยู่ที่การใช้ KOL เพื่อเร่งพฤติกรรม “ซื้อทันที” ทั้งในช่องทางเดลิเวอรีและ walk-in ด้าน Retail & Lifestyle เติบโตจากคอนเทนต์ที่มีความ “สมจริง” และเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมู่ Gen Z และวัยทำงานรุ่นใหม่ ขณะที่ กลุ่ม Beauty & Wellness ยังคงเน้นรีวิวแบบมีประสบการณ์ตรง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถืออย่างแท้จริง” นายธนดล กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad