“คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว” 26 ปี ของเสื้อกันหนาว ที่อบอุ่นด้วยเรื่องราวนับหมื่นใจ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568

“คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว” 26 ปี ของเสื้อกันหนาว ที่อบอุ่นด้วยเรื่องราวนับหมื่นใจ

 


ทุกปีในช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลง ภาพของผู้คนมากมาย ตั้งแต่เด็กนักเรียนตัวน้อยไปจนถึงผู้สูงอายุ ที่เดินทางมารับเสื้อกันหนาวสีส้มจากสยามคูโบต้า กลายเป็นภาพคุ้นตาที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ภาพเหล่านั้นไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำ ตลอด 25 ปีของโครงการ คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว

 


หากย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ภาพแรกเกิดจาก ความห่วงใย” อันเรียบง่ายของสยามคูโบต้าที่มีต่อผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ทุกครั้งที่ลมหนาวพัดแรง คำถามหนึ่งจะผุดขึ้นมาเสมอ อะไรคือสิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดในวันที่อากาศหนาวจัด คำตอบนั้นไม่ซับซ้อนเลยคือ เสื้อกันหนาวอุ่น ๆ สักตัว” ที่จะช่วยให้ผ่านคืนหนาวไปได้อย่างสบายใจ จากความคิดเล็ก ๆ นี้ สยามคูโบต้าจึงเริ่มออกเดินทาง จัดกิจกรรมเล็กเพื่อส่งมอบเสื้อกันหนาวให้กับพี่น้องในพื้นที่ทุรกันดาร และจากวันนั้น การเดินทางของเสื้อสีส้ม” ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

 

เบื้องหลังเสื้อทุกตัวคือแรงใจจากผู้คนมากมายที่ร่วมทำให้ภารกิจนี้เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่ทีมงานสยามคูโบต้าที่ทุ่มเทเตรียมงานทุกขั้นตอน กองทัพบกและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ช่วยคัดเลือกพื้นที่ซึ่งขาดแคลนมากที่สุด ไปจนถึงหน่วยงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดที่ร่วมอำนวยความสะดวกให้การเดินทางเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

 

ทุกขั้นตอนล้วนเต็มไปด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การวางแผนเส้นทาง การคัดสรรจำนวนและขนาดของเสื้อให้เหมาะกับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนได้รับ ความอบอุ่” อย่างที่ตั้งใจไว้ นอกจากนี้ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้าทั่วประเทศยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ ด้วยการมอบของใช้จำเป็นเพิ่มเติมให้กับชุมชนในพื้นที่ที่เราเดินทางไปถึง ทุกแรงใจและความร่วมมือเหล่านี้หลอมรวมกันเป็นภาพใหญ่ของความผูกพัน ที่ทำให้คำว่า ไม่ทิ้งกัน” ของคูโบต้า มีชีวิตอยู่จริงในทุกฤดูหนาว

 

เรื่องราวของโครงการนี้ยังคงสืบต่อผ่านเสียงของผู้คนในพื้นที่ นายจันทร์เพชร มรดกดอย ผู้ใหญ่บ้านแม่หละคี จังหวัดตาก เล่าย้อนถึงความทรงจำเมื่อปี 2565 ว่า ผมยังจำได้ดี วันที่สยามคูโบต้ามาแจกเสื้อกันหนาวให้ชาวบ้าน ทุกคนดีใจกันมาก เพราะเสื้อตัวนั้นไม่ใช่แค่ช่วยกันหนาว แต่ทำให้รู้สึกว่า...เรามีคนห่วงใย ผมเคยไปหมู่บ้านอื่นแล้วเห็นคนใส่เสื้อแบบเดียวกัน เราทักกันทั้งที่ไม่รู้จักกัน เหมือนเราเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่มีความอบอุ่นจากน้ำใจเดียวกัน

 

เช่นเดียวกับ น้องต้นข้าว” เด็กหญิงธนัชพร วรรณเวช จากโรงเรียนอนุบาลบ้านด่านโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่เคยได้รับเสื้อกันหนาวจากโครงการเดียวกันเล่าว่า หนูได้รับเสื้อกันหนาวตัวนี้เมื่อสองปีก่อน ทุกวันนี้หนูอยู่ชั้นมัธยมแล้วก็ยังใส่ได้อยู่ อุ่นเหมือนเดิมเลยค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ สยามคูโบต้าที่มาแจกเสื้อสวย ๆ ให้หนูและเพื่อน ๆ ได้หายหนาวค่ะเรื่องเล่าของเธอทำให้เราเข้าใจว่า สำหรับผู้คนในพื้นที่ห่างไกล สื้อคูโบต้า” ไม่ได้เป็นเพียงของแจกชิ้นหนึ่ง แต่คือเพื่อนคู่ใจในทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน ทุกครั้งที่ออกทำงาน หรือแม้แต่ในวันหนาวเหน็บที่ต้องอยู่บ้าน เสื้อหนึ่งตัวที่อบอุ่นทั้งกายและใจ

 

ปัจจุบัน โครงการ คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว เดินทางเข้าสู่ปีที่ 26 จากกิจกรรมเล็ก ๆ ในวันนั้น ได้เติบโตเป็นโครงการใหญ่ที่แผ่ไออุ่นออกไปดุจต้นไม้ใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จนถึงวันนี้ โครงการได้ส่งต่อเสื้อกันหนาวให้ผู้คนที่ขาดแคลนแล้วมากกว่า 196,000 ชีวิต และยังคงขับเคลื่อนไปด้วยแรงใจจากพันธมิตรและทีมงานอาสาจำนวนมาก

 

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า ทุกครั้งที่เห็นเด็ก ๆ และพี่น้องประชาชนสวมเสื้อแล้วยิ้ม ทีมสยามคูโบต้ารู้สึกเหมือนได้รับของขวัญกลับมา โครงการนี้เดินทางมาถึงวันนี้ได้เพราะพลังจากพันธมิตรและทีมงานอาสาที่ร่วมแรงร่วมใจ สยามคูโบต้าเราภูมิใจ อิ่มเอมใจทุกครั้ง และอยากทำให้ความอบอุ่นนี้แผ่ขยายออกไปในทุก ๆ ปี เพราะเสื้อทุกตัวที่เราส่งมอบ ไม่ได้เป็นเพียงเสื้อกันหนาว แต่คือ พลังใจ’ ที่หลอมรวมความตั้งใจของสยามคูโบต้าและพันธมิตรไว้ด้วยกัน

 

และวันนี้ เรื่องราวของเสื้อกันหนาวสีส้มยังคงเดินทางต่อไป พร้อมเสียงหัวเราะ ความหวัง และรอยยิ้มของผู้คนที่รอคอย เสื้อที่มากกว่าความอบอุ่น เพราะสำหรับพวกเขา เสื้อหนึ่งตัวนี้ไม่ได้วัดเพียงอุณหภูมิของอากาศ แต่คืออุณหภูมิของหัวใจของผู้ให้ และผู้รับที่เชื่อมถึงกัน แม้ฤดูกาลจะผันผ่าน แต่ความหมายของเสื้อกันหนาวสีส้มก็ยังคงเดิมเป็นสัญลักษณ์ของ ไออุ่น” ที่บอกกับทุกคนว่าในหน้าหนาวนี้ พวกเขาไม่ได้อยู่ลำพัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad