ตลาดความงามโตแรง ‘Longevity’ ดันคนอยากมีสุขภาพดีแบบองค์รวม สุขภาพกายไม่พอ ต้องมีใบหน้าอ่อนเยาว์ คุ้มค่า ยั่งยืน ‘แอมเพ็ค’ เปิดตัวโปรแกรม ‘XTHERMA’ เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ตั้งเป้าเติบโตทะลุ 250 ล้าน ภายในปี 2569 - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ตลาดความงามโตแรง ‘Longevity’ ดันคนอยากมีสุขภาพดีแบบองค์รวม สุขภาพกายไม่พอ ต้องมีใบหน้าอ่อนเยาว์ คุ้มค่า ยั่งยืน ‘แอมเพ็ค’ เปิดตัวโปรแกรม ‘XTHERMA’ เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ตั้งเป้าเติบโตทะลุ 250 ล้าน ภายในปี 2569



 ตลาดความงามโตแรง ‘Longevity’ ดันคนอยากมีสุขภาพดีแบบองค์รวม

สุขภาพกายไม่พอ ต้องมีใบหน้าอ่อนเยาว์ คุ้มค่า ยั่งยืน

‘แอมเพ็ค’ เปิดตัวโปรแกรม ‘XTHERMA’ เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

ตั้งเป้าเติบโตทะลุ 250 ล้าน ภายในปี 2569

 


ธุรกิจความงามไทยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งในแง่จำนวนผู้เล่นหน้าใหม่รวมถึงความต้องการของผู้บริโภค ทำให้เทรนด์ความสวยความงามต้องปรับเปลี่ยนไปตามความสนใจในแต่ละปี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ว่า เทรนด์ความงามที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุดอยู่บริเวณใบหน้า คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 47% ส่วนลำตัวและแขนขา คิดเป็นสัดส่วน 16% ของจำนวนการใช้บริการทั้งหมด รวมถึงความต้องการเสริมความงามที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัย โดยคาดว่ามูลค่า

ตลาดธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 76,500 ล้านบาท โตกว่า 2.8% จากปีก่อน


ปัจจุบันธุรกิจความงามไม่ได้มุ่งเน้นเพียงศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น แต่ยังมีผู้บริโภคที่มองหาการดูแลตัวเอง

ที่สอดคล้องกับความต้องการในช่วงเวลานั้นๆ อาทิ เลเซอร์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว โปรแกรม Wellness & Anti-aging เพื่อชะลอวัย รวมถึงการยกกระชับและลดริ้วรอยให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองที่เน้นความยั่งยืน มากกว่าการเปลี่ยนแปลง

ที่ต้องการความรวดเร็ว



นายสุมิตร เตชะสุขสันติ์ ประธานบริหาร บริษัท แอมเพ็ค เอซเธติค จำกัด บริษัทนำเข้าและ

จัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ด้านความงามชั้นนำของไทยมาตรฐานระดับสากล ผ่านการรับรอง FDA จากสหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทย ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 22 ปี ระบุว่า เทรนด์ความงามยุคนี้ผู้บริโภคนิยมใช้เครื่องยกกระชับมากกว่า

การใช้สารเติมเต็ม เพราะต้องการความเป็นธรรมชาติ ดูดีแบบเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ประกอบกับเทรนด์ ‘Longevity’ ที่กำลังมาแรง และไม่ได้จำกัดเฉพาะการดูแลแค่สุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังพบว่า เทรนด์ดังกล่าวยังส่งเสริมให้คนหันมาดูแลตัวเอง

แบบองค์รวมกล่าวคือมีสุขภาพดีไปพร้อมกับการดูดีภายนอกด้วยใบหน้าที่อ่อนเยาว์และร่างกายที่เฟิร์มกระชับจึงทำให้ตลาดความงาม

ได้รับอานิสงส์เติบโตไปพร้อมกัน


ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงเป็นที่มาที่ แอมแพ็ค เอซเธติค ตัดสินใจนำเข้าโปรแกรม ‘XTHERMA’ มาเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการปัจจุบันของผู้บริโภคที่มองหานวัตกรรมที่มีส่วนช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งในตลาดประเทศไทยเครื่องยกกระชับระดับ Gold Standard อาจมีราคาสูงหรือบางเครื่องก็มีประสิทธิภาพไม่ตอบโจทย์

ต่อความต้องการ โปรแกรม ‘XTHERMA’ จาก ‘Tentech’ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านความงามระดับโลก จึงเป็นอีกทางเลือก

สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการทำหัตถการยกกระชับ ด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่าราว 20-30% แต่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเครื่องระดับ

Gold Standard โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ FDA จากสหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทย


‘แอมแพ็ค’ เน้นเจาะกลุ่มไปที่กลุ่มคนวัยทำงาน จนถึงกลุ่ม Successful Business Person ที่มีกำลังซื้อ และกำลังมองหานวัตกรรมที่สร้างความแตกต่างและคุ้มค่า มีความกังวลเรื่องผิวหน้าและผิวตัวที่หย่อนคล้อย อยากดูดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น โดยจะทำการตลาดผ่านแผนการใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOLs พร้อมกับกิจกรรมร่วมกับคลินิกพาร์ทเนอร์ โดยวางจุดยืนเป็น ‘Smart Choice’ ปลอดภัย คุ้มค่า แต่มีนวัตกรรมใกล้เคียง

กับเครื่องระดับ Gold Standard และโปรแกรม ‘XTHERMA’ ยังสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม ‘Smart Technology Cooling’ มีระบบสารหล่อเย็น ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกสบายผิวขณะทำหัตถการ ปรับได้ 7 ระดับ ให้ผลลัพธ์นาน 1 ปี  


นอกจากนี้ ‘แอมเพ็ค’ ยังมีแผนขยายการสื่อสารไปยังกลุ่ม B2C เพิ่มขึ้น หลังจาก 22 ปีที่ผ่านมาเน้นเจาะกลุ่ม B2B เป็นหลัก เนื่องจากเล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมความงามได้ง่ายขึ้น มีข้อมูลมากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภค

มีความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าหัตถการอย่างถูกต้องนอกเหนือจากการอ่านรีวิวหลังจากนี้จึงมีแผนทำกิจกรรมส่งเสริมการสร้าง

Brand Image ของแอมแพ็คในกลุ่ม B2C เพิ่มเติมด้วย


​ทั้งนี้ ‘แอมเพ็ค’ ตั้งเป้าการเติบโตในส่วนของเครื่องยกกระชับผิวโปรแกรม XTHERMA ในปีนี้ไว้ที่ 70 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเติบโตที่ 250 ล้านบาท ภาพรวมยอดขายทั้งเครือต้องการเติบโตอีก 40% ในทุกๆปี โดย สองปีที่ผ่านมาจนถึง

สิ้นปีนี้ที่ บริษัทจะมียอดขายรวมตลอด มากกว่า 1,000 ล้านบาท


​“เทรนด์ความงามมีการอัปเดตอยู่ตลอด เราจึงต้องอัปเดตตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อหาสินค้ามาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ด้วยคู่แข่งในตลาดที่เยอะขึ้น รวมถึงฝั่งผู้บริโภคเองก็หาความรู้มากขึ้น การให้ข้อมูลจากฝั่งแบรนด์ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะ

แบรนด์ที่สื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจะมีชัยไปกว่าครึ่ง ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ที่เป็นผู้นำเข้าต่างก็เริ่มลงมาให้ข้อมูลเอง เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าเดิม”


สามารถติดตามเครื่องยกกระชับผิวโปรแกรม XTHERMA และข้อมูล บริษัท แอมเพ็ค เอซเธติค จำกัด ได้ที่

Website: www.ampexaesthetics.com, Facebook: Ampex Aesthetics, IG: ampexaesthetics.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad