ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขานรับนโยบายรัฐ “Quick Big Win” เร่งหนุน SME ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดบ้าน “TOPS ท้องถิ่น” จ.อุบลฯ มอบโอกาสทางการค้า แก่ผู้ประกอบการรายย่อย ปั้นสินค้าไทยสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดและห้างพันธมิตรชั้นนำต่างประเทศ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขานรับนโยบายรัฐ “Quick Big Win” เร่งหนุน SME ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดบ้าน “TOPS ท้องถิ่น” จ.อุบลฯ มอบโอกาสทางการค้า แก่ผู้ประกอบการรายย่อย ปั้นสินค้าไทยสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดและห้างพันธมิตรชั้นนำต่างประเทศ

 


กรุงเทพฯ 14 ตุลาคม 2568 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พร้อมขานรับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้แนวทาง “Quick Big Win” ในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สินค้าท้องถิ่นไทย ควบคู่กับการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ล่าสุดเดินหน้าจัดงาน “เปิดบ้าน TOPS ท้องถิ่น สนับสนุน SME ไทย ไปสู่ระดับท็อปส์” เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ สร้างเครือข่าย และนำเสนอสินค้าคุณภาพเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรดของท็อปส์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มนำร่องจัดงานเปิดบ้านที่ท็อปส์ สาขาอุบล พลาซ่า จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 18–19 ตุลาคม 2568


นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล 
กล่าวว่า “ภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ยังคงเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แม้ในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้านการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอีไทยจึงเป็นเป้าหมายที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ท็อปส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืนผ่านโครงการที่หลากหลายอาทิ ท็อปส์ ท้องถิ่น แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้พัฒนาศักยภาพสินค้าเพื่อวางจำหน่ายในชั้นวางของท็อปส์ทั่วประเทศ สอดรับกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้แนวทาง Quick Big Win ของรัฐบาล เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนสินค้าเกษตร ฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีช่องทางจำหน่ายที่มั่นคง สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอีในเขตพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงและถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

นายไบรอัน ฮิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายนำเข้าสินค้า และท็อปส์ ท้องถิ่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเสริมว่า แพลตฟอร์ม “ท็อปส์ ท้องถิ่น” ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของท็อปส์ที่มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากผ่านการคัดสรรและผลักดันผู้ผลิตท้องถิ่นให้สามารถพัฒนาและขยายศักยภาพทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,700 รายจากทั่วประเทศ และเรายังคงเดินหน้าเฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงของประเทศ ทั้งในด้านทรัพยากร การผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น โดยจากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าในปี 2567 มีจำนวนผู้ประกอบการวิสาหกิจ (MSME) ประกอบด้วยวิสาหกิจรายย่อย (Micro) วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) และวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กว่า 750,471 ราย คิดเป็นสัดส่วนกว่า 23% ของทั้งประเทศ

ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นของท็อปส์ต่อศักยภาพของผู้ประกอบการในภูมิภาคที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพโดดเด่น จึงได้จัดงาน “เปิดบ้าน TOPS ท้องถิ่น สนับสนุน SME ไทยไปสู่ระดับท็อปส์” ณ จังหวัดอุบลราชธานี ที่นับเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของลุ่มน้ำโขง (GMS) และประตูการค้าหลักสู่ประเทศเพื่อนบ้านในฝั่งกัมพูชา โดยเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของท็อปส์ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นผ่านการเป็นพันธมิตรที่ช่วยผลักดันผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ต่อยอดศักยภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนามาตรฐานสินค้าการสร้างแบรนด์ ไปจนถึงการขยายช่องทางการจำหน่าย เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยสู่ตลาดระดับประเทศและระดับภูมิภาคพร้อมเติบโตไปด้วยกันกับท็อปส์อย่างยั่งยืน

สำหรับงาน “เปิดบ้าน TOPS ท้องถิ่น สนับสนุน SME ไทยไปสู่ระดับท็อปส์” เชิญชวนผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชน และบุคคลธรรมดา (รายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี) ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงร่วมงานระหว่างวันที่ 18–19 ตุลาคม 2568 ณ ท็อปส์ สาขาอุบล พลาซ่า จ.อุบลราชธานี เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่โอกาสในการวางจำหน่ายบนชั้นวางของท็อปส์ทั่วประเทศ พร้อมต่อยอดสู่การขยายตลาดกับพันธมิตรชั้นนำระดับสากล โดยภายในงานผู้สมัครจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ เครดิตเทอม 15 วันไม่มีค่าแรกเข้าพร้อมรับคำแนะนำด้านการควบคุมคุณภาพสินค้า (QA) อย่างใกล้ชิด ครอบคลุมทั้งการออกแบบฉลาก บรรจุภัณฑ์ และแนวทางการตลาดครบวงจรจากทีมผู้เชี่ยวชาญของท็อปส์โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ TOPS ท้องถิ่น TOPS Tongtin

ท็อปส์มุ่งมั่นยกระดับผู้ประกอบการท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ เราไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าคุณภาพสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนคู่คิดและพัฒนาของผู้ประกอบการท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน ขยายโอกาสทางธุรกิจ และยกระดับศักยภาพสินค้าท้องถิ่นไทยให้เป็นหนึ่งในสินค้าคุณภาพของท็อปส์ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภคได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก ภายใต้แนวคิด Local Discoveries พร้อมกันนี้ ท็อปส์ยังเดินหน้าขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคตอกย้ำกลยุทธ์ “12 Missions to Sustainable Retail” และคอนเซ็ปต์ “Small Acts Together” ที่เชื่อมั่นว่าการลงมือทำเล็กๆ ของทุกคน
เมื่อรวมกันจะกลายเป็นพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน” นายสเตฟาน กล่าวสรุป

เข้าร่วมเส้นทางสู่การเป็นพาร์ทเนอร์กับท็อปส์ได้ที่งาน “เปิดบ้าน TOPS ท้องถิ่น สนับสนุน SME ไทยไปสู่ระดับท็อปส์” จัดขึ้น ท็อปส์ สาขาอุบล พลาซ่า จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 18–19 ตุลาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ TOPS ท้องถิ่น TOPS Tongtin

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.TOPS.co.thเฟซบุ๊ก TOPSThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TOPSThailand

#TOPS #SmallActsTogether #TOPSTongTin

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad