กระแสแรงต่อเนื่องสำหรับ “Tron: Ares ทรอน แอรีส” ภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟแห่งปีจากดิสนีย์ ที่ใครได้ดูก็บอกต่อถึงความมันดุเดือดของสงครามระหว่างมนุษย์และนักรบเอไออัจฉริยะ ที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและอารมณ์ความรู้สึก โดยมาพร้อมงานภาพอลังการงานสร้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดเหมือน งานนี้แค่ได้เห็นแสง สี และเทคโนโลยีดิจิทัลสุดตระการตาบนจอยักษ์ก็ตื่นเต้นแล้ว แต่รู้ไหมว่าเบื้องหลังความตื่นตาตื่นใจในโรงภาพยนตร์ คือการถ่ายทำจริง ในโลเคชั่นจริง เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับเรื่องราวมากที่สุด
ทีมผู้สร้างเผยว่า “Tron: Ares ทรอน แอรีส” ถ่ายทำในสถานที่จริงและส่วนใหญ่ใช้เทคนิคการถ่ายทำผ่านกล้องโดยตรง ไม่ใช่ภาพจากคอมพิวเตอร์ โดยกริดแต่ละแห่งมีฉากจริงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ส่วนออฟฟิศของ Kevin Flynn ก็สร้างขึ้นมาใหม่อย่างพิถีพิถัน รวมถึงฉากของ Dillinger Corporation ที่ถ่ายทำในโรงเก็บเครื่องบินขนาดใหญ่ และฉากแอ็กชันถูกถ่ายทำบนถนนทั่วเมืองแวนคูเวอร์ ในแคนาดา โดยเน้นถ่ายทำตอนกลางคืนและใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 6 สัปดาห์
“สำหรับภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและใช้เทคโนโลยีในการสร้างมากขนาดนี้ เรามีฉากจริงขนาดมหึมาที่ใหญ่จนคุณแทบไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง” Emma Ludbrook โปรดิวเซอร์กล่าว ก่อนที่ผู้กำกับอย่าง Joachim Ronning จะเสริมว่า “คุณสามารถสัมผัสได้ว่าฉากต่าง ๆ ในเรื่องถูกถ่ายทำผ่านกล้องจากสถานที่จริง โดยเฉพาะในฉากไลต์ไซเคิล (Light Cycle) ซึ่งผมภูมิใจกับเรื่องนี้มาก มันอาจจะยากในทางปฏิบัติ แต่ผมต้องการที่จะถ่ายทำในฉากจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นั่นคือแนวคิดในการถ่ายทำของเขาที่มองว่าหาก ‘Tron’ เดินทางมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง การถ่ายทำก็ต้องเน้นฉากจริง
การถ่ายทำฉากไล่ล่าของไลต์ไซเคิลในแวนคูเวอร์ Anne Goobie ผู้จัดการสถานที่ซึ่งทำหน้าที่ในการโน้มน้าวให้ปิดถนนหลายสายใจกลางเมืองเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกคืน เผยว่า “เราต้องใช้ทีมทำงานภาคสนามจำนวนมาก และปิดถนนตั้งแต่ 19:00 น. จนถึง 6:00 น. ของอีกวัน และด้วยความที่เป็นฉากทำลายล้างครั้งใหญ่กับ Super Recognizer เลยต้องเอาเศษซากจำนวนมากไปวางบนถนน และต้องหาวิธีนำมันออกจากถนนภายใน 6:00 น. ขณะที่ต้องให้เวลาในการถ่ายทำแก่ทีมงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย แถมฉากนี้ยังต้องใช้โดรนบินเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจาก Transport Canada และจากนั้นก็ต้องได้รับอนุมัติจากทางเมืองว่าจะสามารถบินได้เมื่อไร”
นอกจากนั้น ใจกลางเมืองแวนคูเวอร์ยังมีความหนาแน่นของประชากรสูง ทำให้เกิดความท้าทายอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย “เรากังวลกับการที่ไลต์ไซเคิลวิ่งเร็วมาก เลยต้องแน่ใจว่าทุกซอกทุกมุมถูกควบคุมอย่างดี เพราะถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะมีใครบางคนเดินออกมาจากประตูแล้วตรงไปในเส้นทางของไลต์ไซเคิลก็ได้ ตอนถ่ายทำเลยต้องมีผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ 70 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 17 นาย และจ่าอีก 2 นายช่วยกันดู จนเหมือนกับมีกองทัพเล็ก ๆ ในกองถ่ายทุกคืนเลย” Goobie กล่าว
และที่อาจทำให้หลายคนทึ่ง คือเบื้องหลังฉากที่กำแพงแสงจากไลต์ไซเคิลของ Ares ผ่ารถตำรวจครึ่งคัน ซึ่งไม่ได้ใช้ CGI แต่เป็นการนำรถตำรวจจริง ๆ มาผ่าออกเป็นสองส่วน และถ่ายทำผ่านกล้องจริง “ทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งในแวนคูเวอร์ได้ผ่าครึ่งรถตำรวจ 5-6 คันไว้ล่วงหน้า แล้วนำมาประกบกัน ล่ามเข้ากับรถบรรทุกด้วยลวดที่ยาว 100 หลา เพื่อให้ได้ความเร็วที่ต้องการ และควบคุมด้วยรีโมทเพื่อให้ประจุตรงกลางรถระเบิด ผ่ารถออกเป็นสองซีก จากนั้น Industrial Light & Magic ก็เข้ามาสร้างกำแพงแสงที่พุ่งผ่านรถ ผมคิดว่าถ้าทุกอย่างเป็น CG ก็คงจะยอดเยี่ยม แต่ในภาพยนตร์อย่าง Tron: Ares เราต้องลองทำแบบนี้เพื่อให้แฟนๆ รู้สึกสมจริงในฉากนั้น” Joachim Ronning กล่าว
จัดเต็มเบื้องหลังงานสร้างขนาดนี้ รับประกันความอลังการตื่นตาตื่นใจ ยิ่งดูบนจอ IMAX ยิ่งมันเต็มตา อินถึงใจยิ่งกว่า ไปร่วมลุ้นกับสงครามระหว่างมนุษย์และนักรบเอไอได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และระบบ IMAX
โซเชียลมีเดีย:
X: @DisneyStudiosTH
Instagram: @disneystudiosth
Facebook: @WaltDisneyStudiosTH
Youtube: @waltdisneystudiosth
Hashtag: #TronAresTH #ทรอนแอรีส














ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น