สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ลุยจับมือพันธมิตร 5 หน่วยงานดันผลิต กำลังคนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD) (พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD)) - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ลุยจับมือพันธมิตร 5 หน่วยงานดันผลิต กำลังคนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD) (พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD))

 


สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ลุยจับมือพันธมิตร 5 หน่วยงานดันผลิต กำลังคนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD)

(พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD))

(รูปภาพจากซ้ายไปขวา: นายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, นางบัญชาลักษณ์ ลือสวัสดิ์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, ดร.สิริพร พิทยโสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.), นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน), นายสุโรจน์ เเสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม)

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นายสุโรจน์ เเสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงจาก 5 หน่วยงานพันธมิตร อันได้แก่ นายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, นางบัญชาลักษณ์ ลือสวัสดิ์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, ดร.สิริพร พิทยโสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.), นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) และ

ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD) และการประชุมประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น “โครงการศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการพัฒนากำลังคน สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (EV-HRD)” ณ ห้องกมลทิพย์บอลรูม โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพมหานคร


(รูปภาพ: พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD))

โดยเจตนารมณ์ในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ เพื่อพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Human Resource Development: EV-HRD) เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่มุ่งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายในการพัฒนากำลังคนด้านยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 150,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) สู่ระบบยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และมีเป้าหมายเพื่อเติมเต็มช่องว่างของทักษะระหว่างระบบการผลิตแรงงานกับความต้องการของอุตสาหกรรมใหม่ โดยเน้นการผลิตบุคลากรใหม่ในระบบการศึกษา ครอบคลุมถึงการยกระดับทักษะแรงงาน และการพัฒนาครู อาจารย์ ตลอดจนบุคลากรในสถานประกอบการให้ทันต่อเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกภายใต้เศรษฐกิจสีเขียวและเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions)

ในส่วนของวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสอดคล้องกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นการเชื่อมโยง "ผู้ใช้กำลังคน" (อุปสงค์) กับ "ผู้ผลิตกำลังคน" (อุปทาน) อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการจัดทำหลักสูตร การฝึกอบรม การฝึกงาน และการรับรองมาตรฐานอาชีพ


นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า “ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ 5 หน่วยงานชั้นนำ เพื่อยกระดับกำลังคนของประเทศไทยให้พร้อมเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการ ยกระดับทักษะ (Upskill) พัฒนาทักษะใหม่ (Reskill) และสร้างเส้นทางอาชีพที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม EV ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินการพัฒนาและออกแบบหลักสูตรอบรมร่วมกับภาคการศึกษาและภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจริงของแรงงานไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ช่างเทคนิค ผู้ประกอบการ เจ้าของอู่ซ่อม ตลอดจนถึงนิสิต–นักศึกษา โดยหลักสูตรต่าง ๆ ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับ ความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ และการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้ผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี EV ตลอดจนการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EMC) เพื่อเปิดพื้นที่ให้บุคลากรรุ่นใหม่ได้ลงมือพัฒนา ทดลอง นำความรู้ด้าน EV ไปประยุกต์ใช้จริง และต่อยอดเป็นทักษะอาชีพในอนาคต

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างกำลังคนคุณภาพเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญให้ประเทศสามารถก้าวสู่ เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และ การเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ผ่านการลงทุนใน “ คน ” ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักของการพัฒนา

สมาคมฯ มุ่งหวังว่าความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงภาคการศึกษา อุตสาหกรรม และภาครัฐเข้าด้วยกัน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ”


(รูปภาพจากซ้ายไปขวา: คุณตติยะ หลิมวิจิตร์ รองเลขาธิการ, คุณวีรันดา วัฒนดำรง กรรมการ ประธาน WG6, ผศ.ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ กรรมการ ประธาน WG2, คุณสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย, คุณอัษฎายุทธ รุธิรโก อุปนายกฯ ฝ่ายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, รศ.ดร.สุตาภัทร แคว้นเขาเม็ง เลขาธิการ, คุณณัฐพัชร ทวีวรรณบูลย์ กรรมการ เลขานุการ WG4 และผศ.ดร.มานนท์ สุขละมัย กรรมการ รองประธาน WG2)

ในส่วนของบทบาทหน้าที่ของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) จะมีการดำเนินงานครอบคลุมในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

 การเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมกับระบบการพัฒนากำลังคน โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้จากผู้ประกอบการสู่หน่วยงานฝึกอบรมทั้งในส่วน สอวช. กพร. และ สอศ.

 สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทั้งในด้านเนื้อหาและการพัฒนาหลักสูตร

 ร่วมกำหนดเป้าหมายการผลิตแรงงานที่ตรงกับความต้องการของตลาด

 ประสานงานเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมกับภาครัฐและการศึกษา

 ส่งเสริมการสร้างอาชีพใหม่ที่เกิดจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ กพร. และ สคช. เพื่อให้แรงงานไทยสามารถเข้าสู่อาชีพในระบบอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


(รูปภาพบรรยากาศพิธีลงนาม)

กรอบความร่วมมือในครั้งนี้จะมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปีนับตั้งเเต่วันที่ทุกฝ่ายลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาเเละผลักดันกำลังคนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV-HRD) นับเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 6 หน่วยงาน ในการเดินหน้าพัฒนาและยกระดับกำลังคนด้านอุตสาหกรรมของประเทศเพื่อตอบโจทย์อุสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ในระดับภูมิภาคทางสมาคมฯ ยังได้ขยายความร่วมมือไปสู่เวทีอาเซียน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ สมาพันธ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอาเซียน (Asian Federation of Electric Vehicle Associations: AFEVA) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านเทคโนโลยี แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเข้าถึงระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในระดับอาเซียนซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทักษะสำคัญของประเทศไทยในอนาคต


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad