กรุงเทพฯ - 13 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย ประกาศลงนามในสัญญาซื้อขาย (Sales and Purchase Agreement - SPA) กับ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เพื่อเข้าซื้อที่ดินขนาด 160 ไร่ (256,000 ตารางเมตร) ภายในโครงการอารยะ ดิ อิสเทิร์น เกตเวย์
การเข้าซื้อที่ดินในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนในระยะยาวของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้าน
โลจิสติกส์ และสนับสนุนการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย โดยที่ดินผืนนี้เตรียมพัฒนาให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแบบบูรณาการที่ทันสมัย พร้อมระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (Advanced Automated Storage and Retrieval System - ASRS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพื้นที่การจัดเก็บ
“การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.ประเทศไทย” นายแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานที่พร้อมสำหรับอนาคตและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยแนวคิด ‘ราคาถูกคุ้มเสมอ (Always Low Prices)’ ผ่านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นหัวใจของการดำเนินงานของเรา อีกทั้ง ยังช่วยยกระดับให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เสริมสร้างความเป็นผู้นำในตลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการขยายสาขาได้มากถึง 3,000 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2574 เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์”
ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอารยะ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อโดยตรงกับทางหลวงสายหลัก ทางด่วนพิเศษ ท่าเรือ และสนามบินต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบด้านโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งสำหรับการกระจายสินค้าในภูมิภาค นอกจากนี้ การออกแบบของศูนย์ดังกล่าวอยู่ภายใต้แนวคิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงความทุ่มเทของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.ในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม
นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อวิสัยทัศน์ของอารยะและทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ของเราที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของประเทศไทย การจัดตั้งศูนย์โลจิสติกส์หลักของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.แห่งนี้ จะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ พร้อมดึงดูดการลงทุนศักยภาพสูงเพิ่มเติมในอนาคต”
การลงทุนเชิงกลยุทธ์นี้ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.ในภาคธุรกิจค้าปลีก และถือเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง การขยายเพื่อรองรับการเติบโต ควบคู่ไปกับความยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนสนับสนุนความมุ่งมั่นของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในการเติบโตในระดับภูมิภาค
####
เกี่ยวกับ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไปในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,000 สาขา ใน 77 จังหวัด มีความมุ่งมั่นในการสร้างความแตกต่าง เพื่อมอบความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในทุกสาขาทั่วประเทศ ผ่านหลากหลายสินค้าประมาณ 16,000 รายการ ประกอบด้วยสินค้าใน 6 แผนกหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น และสินค้าเบ็ดเตล็ด
โดยมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีการบริหารจัดการสาขาทั้งหมดโดยตรง พร้อมทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ตลอดจนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ด้วยความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ ผ่านการดำเนินธุรกิจที่มีนวัตกรรมในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย คุณภาพดี และคุ้มค่าต่อการจับจ่าย ยึดมั่นคำขวัญที่ว่า “Always Low Prices” หรือ ราคาถูกคุ้มเสมอ
เกี่ยวกับ โครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ (ARAYA THE EASTERN GATEWAY)
โครงการ ‘อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์’ กำเนิดจากความร่วมมือระหว่าง 3 บริษัทชั้นแนวหน้าในแวดวงอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน), บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ ผ่านการผสมผสานรูปแบบพื้นที่อุตสาหกรรมร่วมกับความเป็นเมือง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานระดับเวิลด์คลาส เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าไปสู่ความยั่งยืน และยังเป็นการร่วมผลักดันเศรษฐกิจเมืองไทยให้เจริญก้าวหน้าอีกด้วย













ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น