TEBP พร้อมระดมทุนเข้า mai ขาย IPO 90 ล้านหุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพ Biogas - OWM ปักหมุดผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

TEBP พร้อมระดมทุนเข้า mai ขาย IPO 90 ล้านหุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพ Biogas - OWM ปักหมุดผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร


 บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEBP ผู้ให้บริการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ครบวงจร (Organic Waste Management : OWM) ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ (Biogas) และไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Green Electricity) เดินหน้าขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% เตรียมเข้าเทรดตลาด mai ภายในต้นปี 69 ระดมทุนเพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพธุรกิจและประสิทธิภาพกระบวนการผลิตทั้งธุรกิจ Biogas และ OWM ต่อยอดการให้บริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบัน โชว์จุดเด่นผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร ทั้งมีข้อได้เปรียบจากแรงหนุนของ กลุ่มบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลิตวัตถุดิบยางพาราและปาล์มน้ำมันรายใหญ่ในภาคตะวันออกในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่  ที่พร้อมผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างโดดเด่นและยั่งยืน

 


นายก้องกิต โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEBP ผู้ให้บริการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ครบวงจร ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพและไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 75 ล้านหุ้น และหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม TEGH จำนวน 15 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นภายหลังการ IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในต้นปี 2569

                                          


ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นในการบริการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร รวมทั้งผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพและไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดอยู่ในเมกะเทรนด์ TEBP จึงเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจอื่นๆ สนับสนุนการเติบโตสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) อย่างยั่งยืน สอดรับเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศไทย จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ในระยะยาว

                                          


“สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas) และการบริหารจัดการกากอินทรีย์ (Organic Waste Management หรือ OWM) และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือการต่อยอดการให้บริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบันของ TEBP และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน”

 


นอกจากจะเป็นการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแล้ว ยังมีเป้าหมายสำคัญในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาด เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยในการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก ที่สำคัญโมเดลธุรกิจของ TEBP ยังสามารถตอบโจทย์ด้านการลดผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งจากองค์กรและลูกค้า การระดมทุนครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ TEBP เข้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์อย่างครบวงจรของประเทศไทย

 


นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ TEBP กล่าวว่า ด้วยโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและเป็นผู้ให้บริการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ครบวงจร ภายใต้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์มายาวนาน รวมไปถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และแผนการระดมทุนที่มีความชัดเจน จะสร้างโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับ TEBP

 


รวมถึงยังมีกลุ่ม บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการนำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต และให้ความสำคัญกับการเป็นองค์กรเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่พร้อมสนับสนุนและสร้างโอกาสการเติบโต TEBP จึงมีข้อได้เปรียบจากการใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างเต็มศักยภาพ ทำให้มั่นใจว่า TEBP จะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน

 

สำหรับผลการดำเนินงาน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565-2567) มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 188.41 ล้านบาท221.28 ล้านบาท และ 251.01 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ  24.76 ล้านบาท 76.90 ล้านบาท และ 68.35 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวดบัญชี 6 เดือนปี 2568 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 166.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.37 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad