บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ท็อปฟอร์ม! โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิ 65 ลบ. เพิ่มขึ้น 29% ทำออลไทม์ไฮ 7 ไตรมาสต่อเนื่อง เหตุบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตดีเยี่ยม ฟากซีอีโอ “ดร. สมโภชน์ วัลยะเสวี” ระบุคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท จากแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่มเติบโตสูง มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองกับลูกค้าได้หลากหลาย และรับรู้ผลกำไรจากบริษัทร่วมทุน พร้อมรับอานิสงส์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หนุนผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 458 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 111.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.7% ใกล้เคียงกับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2566 ที่ 24.9%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ กำไรสุทธิ 65.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8 ล้านบาท
หรือคิดเป็น 29.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ
50.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 14.2%
จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทำได้อยู่ที่ 10.8% ซึ่งอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“ผลกำไรในไตรมาส 2/2567
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
และทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน
เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน
5.4 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก
BOI” ดร.สมโภชน์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1
มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567
โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 สิงหาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผล
ในวันที่ 10 กันยายน นี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX กล่าวอีกว่า
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง
คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก
โดยได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการสินค้า Flexible packaging ในช่วงเทศกาลต่างๆ
ในครึ่งปีหลัง
พร้อมกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจกล่องระดับพรีเมียมจากโครงการร่วมทุน Starprint
Vietnam อีกทั้งคาดว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐจะเข้ามากระตุ้นยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหลักของ SFLEX และคาดว่าบริษัทร่วมทุน "บริษัท สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง
จำกัด" จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายไตรมาส 4/2567 อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้แบบ Organic growth จากธุรกิจหลักอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และสร้างสถิติสูงสุดใหม่
จากแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง
เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
และกลุ่มที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน
หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) ให้มากยิ่งขึ้นตามเทรนด์ในปัจจุบัน
พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร
และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น