·
บริษัท เอ็กซ์สปริง
แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (XPG) ผลงานครึ่งปีแรกเติบโตโดดเด่น
โชว์รับรู้รายได้รวม 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% กำไรสุทธิ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% รับ 2 ปัจจัยหนุน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อเติบโต 68%
รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเติบโตกว่า 278%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
·
คงเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่
1,000 ล้านบาท
มองครึ่งปีหลังธุรกิจสดใส รับอานิสงส์เศรษฐกิจยังเปราะบาง ภาคธุรกิจต้องการเงินทุน
หนุนธุรกิจปล่อยกู้ เติบโตต่อเนื่อง แม้ไตรมาส 2/2567 จะได้รับผลกระทบจากการปรับมูลค่าตามราคาในเงินลงทุน
(Mark to Market) การตั้งสำรองเพิ่ม
และรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ที่ลดลง
· ชูกลยุทธ์ผู้นำการลงทุนยุคใหม่
ด้วย ecosystem บริษัทในเครือผนึกกำลังเติบโต เผยครึ่งปีหลัง
บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเตรียมพร้อมออกกองทุนใหม่
ธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลส่งลูกค้าออก ICO ในไตรมาส 4
และธุรกิจบริหารสินทรัพย์เริ่มมีรายได้จากการบริหารอย่างมีนัยสำคัญ
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท
เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่า ปี 2567 ในช่วงครึ่งปีแรกถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกมีความน่ากังวล
แต่ XPG สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างน่าพอใจ โดยมีรายได้รวมครึ่งแรกปี 2567 อยู่ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% โดยรายได้หลักมาจากรายได้จากดอกเบี้ยจากการธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่ทำได้
255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
69% รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278% รายได้จากเงินปันผล
29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
53% และรายได้อื่น ๆ 18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนอยู่ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราผลกำไรจากกำไรสุทธิในไตรมาสที่
1/2567 ที่ 51 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2/2567 มีกำไรสุทธิ 2.4
แสนบาท โดยกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2567 ที่ปรับลดลงมาจากการปรับมูลค่าตามราคาในเงินลงทุน (Mark to Market) และส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมทุนที่ปรับตัวลดลง
ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากสภาวะตลาดที่มีความผันผวน กระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ที่บริษัทฯ ลงทุนปรับตัวลง อีกทั้งบริษัทฯ ได้ตั้งสำรอง (Credit loss) เพิ่มขึ้นที่ 47
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 261% เพื่อให้เพียงพอและเหมาะสมต่อความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดจากลูกหนี้ที่มีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังรับรู้ส่วนแบ่งจากเงินลงทุนในธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจจากบริษัทร่วมอย่าง
บริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) ที่ลดลงจากสภาวะตลาดที่ผันผวน
อย่างไรก็ตามในครึ่งหลังของปีนี้ XPG ยังคงมั่นใจจะสามารถเติบโตได้ตามแผน
และยังคงเป้าหมายรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท
โดยบริษัทจะยังคงเน้นกลยุทธ์ การใช้ Ecosystem ของกลุ่ม XSPRING ที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจรเข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการลงทุนของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยในธุรกิจสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุน
โดยเฉพาะการให้สินเชื่อของกลุ่ม XSPRING
ที่มั่นใจว่างวดครึ่งหลังของปี
2567 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 จากสภาวะดอกเบี้ยที่แม้จะเริ่มส่งสัญญาณหยุดวงจรขาขึ้นแต่ก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ตลาดการเงินที่ตึงตัวทำให้อุปสงค์ทางการเงินมีมากขึ้น ยอดขอสินเชื่อเงินทุน จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
อีกทั้งเป็นโอกาสของ XSPRING ที่สามารถไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น
ๆ ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้อีกด้วย
ขณะเดียวกันในส่วนบริการสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนนี้กลุ่ม XSPRING จะยังมีความเคลื่อนไหวในการเป็นที่ปรึกษาในการออก ICO ให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาส 4 โดยเน้นการเสนอขายให้แก่ลูกค้าในแบบเฉพาะเจาะจง
(Private Placement) ขณะเดียวกันในส่วนของบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนในครึ่งปีหลัง
กลุ่ม XSPRING มีแผนที่จะออกกองทุนอย่างต่อเนื่องทั้งกองทุนรวม
(Mutual Fund) และกองทุนส่วนบุคคล (Private Equity) เพื่อสร้างรายได้ตามเป้า
รวมถึงมีโอกาสสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนให้กับพันธมิตรอีก
16 บลจ. ซึ่งในครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นที่สนันสนุนรายได้ค่าธรรมเนียมให้เติบโตขึ้นกว่าครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง XSPRING ยังมีโอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจบริหารสินทรัพย์
ที่ยังมีแผนประมูลหนี้เสียเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันมียอดหนี้ในการบริหารจัดการกว่า
4,000 ล้านบาท
และอยู่ระหว่างการเร่งติดตามชำระหนี้กับลูกหนี้ และทยอยขายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) ในพอร์ต เพื่อรองรับแผนในการประมูลหนี้เสียเข้าพอร์ตใหม่
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นรายได้ในช่วงไตรมาส 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น