กรุงเทพฯ - บมจ.ยูเอซี โกลบอล ( UAC ) ประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 กวาดรายได้ 934.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.13% (YoY) โดยมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 91.41 ล้านบาท และ EBITDA อยู่ที่ 210.61 ล้านบาท พร้อมรับรู้กำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม 41.03 ล้านบาท ด้าน CEO “ชัชพล ประสพโชค”ลุยต่อยอดเปิดโครงการครึ่งปีหลัง “โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) Generator#2 กำลังการผลิต1.5 MW. - PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) โรงผลิตและจำหน่าย RDF3” พร้อมส่งซิกไตรมาส 4/2567 จ่อรับทรัพย์จากการขายหุ้น BBGI-BI จำนวน 370.50 ล้านบาท
บริษัท ยูเอซี
โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี
2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตอย่างโดดเด่นแตะที่ระดับ 934.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.65 ล้านบาท หรือ 17.13% (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 91.41 ล้านบาท และ 210.61 ล้านบาท ตามลำดับ และส่วนแบ่งกำไร จากการลงทุนในบริษัทร่วม อยู่ที่ 41.03
ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส
2/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 466.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.61 ล้านบาท หรือ 22.16% (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท
31.01 ล้านบาท และมี EBITDA อยู่ที่ 89.18 ล้านบาท
โดยยังคงรักษาสภาพคล่องกระแสเงินสด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 อยู่ที่ระดับ 270.47
ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพียง 1.04 เท่า ซึ่งสอดรับนโยบายทางการเงินของบริษัทฯ ที่ไม่เกิน 2 เท่า
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2567 UAC เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย
กลุ่มธุรกิจ Trading มีรายได้รวม
จำนวน 733.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.94% (YoY) จากรายได้สินค้าในกลุ่มธุรกิจ Trading - Energy ซึ่งมี Margin สูงกว่าที่ประมาณการไว้
และยังมี backlog ที่รอการส่งมอบตามแผน ขณะที่กลุ่ม Industrial
และ Export & Others กลับมียอดขายลดลง
กลุ่มธุรกิจ Manufacturing -
Energy
มีรายได้รวม จำนวน 87.83 ล้านบาท ลดลง 5.62 ล้านบาท หรือ 6.01%
(YoY) จากโรงงาน PPP มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและได้รับวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อการผลิต
ขณะที่โรงไฟฟ้าพืชพลังงานแม่แตง โรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
ยังคงผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนที่วางไว้ มีการทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพืชพลังงานภูผาม่านที่ผลิตไฟฟ้าได้
50% - 55% ของกำลังการผลิต 1.5 MW.ด้านโรงงานผลิต RDF3 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สามารถผลิตได้ 100 ตัน/วัน และส่งจำหน่าย RDF3 ให้กับโรงปูน KCL ได้อย่างต่อเนื่อง
กลุ่มธุรกิจ Manufacturing -
Petroleum
มีรายได้รวม จำนวน 113.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.16 ล้านบาท หรือ 827.33% (YoY) จากการผลิตน้ำมันดิบ 200 - 240 BPD และมี Margin ที่ 80% โดยมีแผนจัดหาอุปกรณ์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากกว่า
320 BPD ภายในไตรมาส 4/2567 ผลิตภัณฑ์ Associated
Natural Gas อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่ออนุมัติราคาซื้อขาย
ส่วนแผนความคืบหน้าโครงการช่วงครึ่งปีหลัง
นายชัชพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าและพัฒนาโครงการที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) เตรียม COD เครื่องGenerator#2 กำลังการผลิต 1.5 MW. ในไตรมาส 3/2567
ด้านโครงการ PT Cahaya Yasa Cipta
(CYC) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ร่วมทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด
เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3
ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กำลังการผลิต 40,000 ตัน/ปี
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานและคาดว่าจะ COD ภายในปี
2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
ยังได้มีมติอนุมัติการขายหุ้นสามัญในบริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จํากัด (“BBGI-BI”) จำนวน 844,498 หุ้น คิดเป็น 30%
ของทุนจดทะเบียนซึ่งชำระเต็มมูลค่าแล้ว ให้กับ บริษัท บีบีจีไอ จํากัด (มหาชน) (“BBGI”)
มูลค่ารวม 370.50 ล้านบาท
เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ของบริษัทในอนาคต ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) เพื่อสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ
ได้ในระยะยาว โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4/2567
นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น