บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) สุดสตรอง! ฟิทช์ เรทติ้งส์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'A-(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่แข็งแกร่ง และเป็นมาตรฐานสากล โดยมีสาขามากที่สุดถึง 7,980 สาขา บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ทำได้ตามเป้าหมาย และ ผลการดำเนินงานทางการเงินที่น่าพอใจ รวมทั้งมุ่งเน้นการสร้างโอกาสการทางการเงินแก่ทุกคนในสังคม พร้อมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'A-(tha)' โดยมี แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเป็นไมไครไฟแนนซ์ระดับโลก ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสการทางการเงินแก่ทุกคนในสังคม พร้อมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมาตรฐานสากล อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต ของ MTC สะท้อนถึงความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่แข็งแกร่งของ
MTC โดยมีสาขามากที่สุดถึง 7,980 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี
2567 รวมไปถึงประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 32 ปี ในการดำเนินธุรกิจนี้
อีกทั้งความสามารถในการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ทำได้ตามเป้าหมาย และ
ผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ
บริษัท ฯ เชื่อว่าการได้รับเครดิตเรทติ้งในครั้งนี้
จะส่งผลให้บริษัท ฯ สามารถขยายฐานในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น
และทำให้บริษัท ฯ บริหารจัดการต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ
ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ ผ่านสาขากว่า 7,980
แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม
ยืนหยัดเป็นผู้ให้สินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
และให้ความสำคัญต่อการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและสิทธิในการเข้าถึงมาตรฐานบริการระดับสากลอย่างเท่าเทียม
ขณะเดียวกัน
ยังพัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ
เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด
รวมถึงบริษัทฯ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว)
รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับ
A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA
ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class
Thai Microfinance) อีกทั้งยังได้รับได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก
อาทิเช่น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี
(KfW DEG) และยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต
เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม
พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น