เจ.เจ. สปอน (J.J. Spaun). พัตต์ไกลระยะ 65 ฟุต คว้าแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” เมเจอร์แรกในชีวิต พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 157 ล้านบาท - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เจ.เจ. สปอน (J.J. Spaun). พัตต์ไกลระยะ 65 ฟุต คว้าแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” เมเจอร์แรกในชีวิต พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 157 ล้านบาท



 “เจ.เจ. สปอน” พัตต์ไกลระยะ 65 ฟุต คว้าแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” เมเจอร์แรกในชีวิต พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 157 ล้านบาท

(เพนซิลเวเนีย, สหรัฐอเมริกา) – เจ.เจ. สปอน (J.J. Spaun) โปรกอล์ฟหนุ่มชาวอเมริกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ผงาดคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกในชีวิต หลังเร่งเครื่องทำเบอร์ดี้ในสองหลุมสุดท้าย โดยเฉพาะพัตต์ไกลระยะ 65 ฟุตที่หลุม 18 คว้าแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น ครั้งที่ 125” ณ สนามโอ๊คมอนต์ คันทรี คลับ พาร์ 70 รัฐเพนซิลเวเนีย จบด้วยสกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 279 เหนืออันดับสอง 2 สโตรก รับเงินรางวัล 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 157.6 ล้านบาท

การแข่งขันรายการเมเจอร์ที่สามของปีนี้ จัดโดยสมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกา (USGA) ระหว่างวันที่ 12–15 มิถุนายน 2568 โดยมีเงินรางวัลรวม 21.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 788 ล้านบาท ซึ่งในวันสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน การแข่งขันต้องหยุดชะงักชั่วคราวในช่วงบ่าย เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและสนามไม่พร้อมสำหรับการเล่น โดยฝ่ายจัดประกาศหยุดการแข่งขันในเวลา 16:01 น. ตามเวลามาตรฐานฝั่งตะวันออก รวมเวลาหยุดพักทั้งสิ้น 96 นาทีก่อนจะกลับมาแข่งขันต่อได้ในช่วงเย็น

เจ.เจ. สปอน วัย 34 ปี ซึ่งเคยคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการเท็กซัส โอเพ่น เมื่อปี 2022 ออกสตาร์ทวันสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำหนึ่งสโตรก แม้จะพลาดเสียถึง 5 โบกี้ใน 6 หลุมแรก แต่เขาก็สามารถกลับมาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 12 และ 14 แม้จะเสียอีกหนึ่งโบกี้ในหลุม 15 แต่ยังสามารถทำเบอร์ดี้ในหลุม 17 จากระยะ 18 ฟุต และจบวันด้วยพัตต์ระยะ 65 ฟุตในหลุมสุดท้าย คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น สมัยแรกในชีวิตได้สำเร็จ นับเป็นการลงเล่นรายการนี้เพียงครั้งที่สองของเขา โดยก่อนหน้านี้เคยร่วมแข่งขันที่สนามทอรีย์ ไพนส์ กอล์ฟ คอร์ส (เซาท์ คอร์ส) รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2021

หลังคว้าแชมป์ สปอน เปิดเผยว่า “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมาคว้าแชมป์ที่นี่ ผมเคยมีแรงบันดาลใจและความฝันว่าจะทำได้ ผมไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าอะไร ผมเพียงแค่พยายามเป็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ แล้วในช่วงที่การแข่งขันหยุดไปเพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย บรรยากาศในสนามก็เปลี่ยนไปด้วย ที่หลุม 18 ผมไม่ได้ดูสกอร์บอร์ดเลย ได้ยินแต่เสียงแฟน ๆ ดังกระหึ่ม ผมก็แค่บอกกับตัวเองว่าถ้าทำสองพัตต์ก็อาจชนะ แต่ผมไม่ต้องการให้มันจบแบบนั้น ผมไม่อยากเล่นแบบเซฟ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมนำอยู่สองสโตรก ผมแค่พยายามไม่ให้ทำสามพัตต์ และต้องยอมรับว่าวิคเตอร์ (ฮอฟลันด์) ช่วยผมได้เยอะ เพราะไลน์พัตต์ของเขาใกล้เคียงกับผม ซึ่งมันคล้ายกับตอนที่ผมคว้าแชมป์แรกในพีจีเอทัวร์ที่รายการเท็กซัส โอเพ่น ตอนนั้น สก็อตต์ สตอลลิงส์ พลาดตกบังเกอร์ในหลุมสุดท้าย และผมได้ไลน์พัตต์จากเขาซึ่งอยู่ระยะ 40 ฟุต มันคล้ายกันมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้”

สปอน กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่สามในประวัติศาสตร์ที่จบอันดับหนึ่งหรือสองในรายการ “เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ” และสามารถคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ได้ในปีเดียวกัน ต่อจาก ไทเกอร์ วูดส์ (จบอันดับสองในเดอะ เพลเยอร์ส ปี 2000 และคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ที่เพบเบิลบีชด้วยผลต่าง 15 สโตรก) และมาร์ติน คายเมอร์ (คว้าแชมป์ทั้งสองรายการในปี 2014 ที่ไพน์เฮิร์ส)

โรเบิร์ต แม็คอินไทร์ โปรหนุ่มจากสกอตแลนด์ ทำ 4 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ จบวันด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 68 รวม 1 โอเวอร์พาร์ 281 คว้าอันดับสอง ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาในรายการระดับเมเจอร์ พร้อมรับเงินรางวัล 2.322 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 75.3 ล้านบาท และอันดับสาม วิคเตอร์ ฮอฟลันด์ จากนอร์เวย์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 282

อันดับสี่ร่วม ได้แก่ แคเมรอน ยัง จากสหรัฐฯ (70), ไทเรลล์ แฮตตัน จากอังกฤษ (72) และการ์ลอส ออร์ตีซ จากเม็กซิโก (73) โดยมีสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 283 ขณะที่จอน ราห์ม โปรจากสเปน แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2021 และแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2023 จบอันดับ 7 ร่วม หลังทำ 3 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 4 โอเวอร์พาร์ 284 เท่ากับ สกอตตี เชฟเฟลอร์ มือหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ (70) และแซม เบิร์นส์ ผู้นำรอบสองและสาม (71)

บรูคส์ เคปกา โปรชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2 สมัย (ปี 2017–2018) ทำ 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวม 6 โอเวอร์พาร์ 286 จบอันดับ 12 ร่วมกับนักกอล์ฟอีก 6 คน รวมถึง ซานเดอร์ เชาเฟอเลอ (69) และอดัม สกอตต์ จากออสเตรเลีย แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2013 ซึ่งทำ 79 จบที่ 9 โอเวอร์พาร์ 289 เช่นเดียวกับ แมทธิว ฟิตซ์แพทริก จากอังกฤษ แชมป์ปี 2022 ที่จบด้วย 11 โอเวอร์พาร์ 291

ผลงานของอดีตแชมป์รายอื่น ๆ อาทิ รอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ แชมป์ปี 2011 จบอันดับ 19 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 7 โอเวอร์พาร์ 287 ขณะที่ จอร์แดน สปีธ แชมป์ปี 2015 จบอันดับ 23 ร่วม รวม 8 โอเวอร์พาร์ 288

ด้านนักกอล์ฟจากเอเชีย ทอม คิม หรือ คิม จู-ฮยอง จากเกาหลีใต้ ทำ 2 โอเวอร์พาร์ 72 จบอันดับ 33 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 289 ถือเป็นผลงานดีที่สุดของผู้เล่นจากเอเชียที่ผ่านการตัดตัวเข้ารอบสุดท้าย ส่วนฮิเดกิ มัตซึยามะ จากญี่ปุ่น (68) และคิม ชีอู จากเกาหลีใต้ (73) จบที่ 12 โอเวอร์พาร์ 292 อันดับ 42 ร่วม ขณะที่อิม ซองแจ จากเกาหลีใต้ (70) จบอันดับ 57 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 16 โอเวอร์พาร์ 296

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ได้ที่ www.usga.org

เครดิตภาพ: USGA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad