อ.ส.ค.สืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน จากรัชกาลที่ 9 ก้าวสู่รัชกาลที่ 10 - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อ.ส.ค.สืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน จากรัชกาลที่ 9 ก้าวสู่รัชกาลที่ 10


เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชการที่ 10 ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) 

ในฐานะหน่วยงานที่สานต่อภารกิจ  สนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อให้ 

การเลี้ยงโคนม เป็นอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรโคนมไทยมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 60ปี  สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งยังคงทรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร   ในขณะนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดงาน “วันโคนมแห่งชาติ”  โดยมี มร.นีล  กุนา  ซันเดอการ์ด  ปูชนียบุคคลของวงการโคนมไทยเข้าเฝ้า ณ พลับพลาพิธีเปิดงาน  อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  


  นายสุชาติ  จริยาเลิศศักดิ์   รองผู้อำนวยการ ทำการแทน ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  กล่าวว่า  การเสด็จมาเปิดงาน “วันโคนมแห่งชาติ”  

ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะนั้น ทรงสร้างความปลาบปลื้มให้พสกนิกรชาวไทยและเกษตรกรชาวโคนมเป็นอย่างมากและจดจำภาพความประทับใจแห่งประวัติศาสตร์วันนั้นได้จนถึงทุกวันนี้

ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของในหลวงรัชการที่9 ในมิติ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ “โคนมอาชีพพระราชทาน” ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ทรงพระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกรไทยไว้เพื่อส่งเสริมอาชีพโคนมให้แก่เกษตรกรไทยให้มีรายได้และอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (พระยศในขณะนั้น)  ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญ ที่จะดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

               นายสุชาติ  กล่าวด้วยว่า สำหรับ “อาชีพการเลี้ยงโคนม” เกิดจากพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”(รัชกาลที่ 9) ที่ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคนมที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคง ดังพระราชดำรัสในตอนหนึ่งว่า

     


“การเลี้ยงโคนมก็เป็นอาชีพที่ดีสำหรับคนไทย เหมาะกับประเทศ และถ้าใช้หลักวิชาที่เหมาะสม ก็จะทำให้มีความเจริญและมีรายได้ดี” จึงก่อเกิด “อาชีพการเลี้ยงโคนม” 

            ซึ่งอาชีพนี้ก่อกำเนิดขึ้น เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2503 ครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เสด็จประพาสทวีปยุโรปประทับแรมอยู่ ณ ประเทศเดนมาร์ก ทรงให้ความสนพระทัยในกิจการการเลี้ยงโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ว่าด้วยการร่วมมือด้านวิชาการการเลี้ยงโคนมระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์กขึ้น และลงนามสัญญาการให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางวิชาการการเลี้ยงโคนมจากนั้นมา  และได้มีการจัดตั้งโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยขึ้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2505 

                  จนถึงปัจจุบันซึ่งจากปี 2505 จวบจนถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2563 อาชีพการเลี้ยงโคนม อาชีพพระราชทานที่เกษตรกรไทยได้สืบสาน รักษา ต่อยอด ให้คงอยู่จากรุ่นสู่รุ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากพระราชปณิธานของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ” (รัชกาลที่ 9) เข้าสู่รัชสมัยปัจจุบัน ใน “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” (รัชกาลที่ 10) ทรงสานต่อพระราชปณิธานให้ “อาชีพการเลี้ยงโคนม” ของเกษตรกรไทยยังสืบสาน ต่อยอดกิจการโคนมโดยอ.ส.ค.

                  นายสุชาติ  กล่าวเพิ่มเติมว่า อ.ส.ค. มุ่งมั่นเดินหน้าพันธกิจขององค์กรสืบสานพระราชปณิธาน “โคนมอาชีพพระราชทาน” ส่งเสริมสหกรณ์และเกษตรกรโคนมให้ดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ให้องค์ความรู้ด้านการประกอบกิจการโคนม การบริหารจัดการฟาร์มโคนม การบริหารจัดการด้านอาหารในฟาร์มโคนม ตลอดจนการดูแลสุขภาพโคนม การพัฒนาและปรับปรุงพันธ์โคนมเพื่อยกระดับเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer เสริมศักยภาพด้านผลผลิตให้แก่เกษตรกรโคนม รวมถึงการพัฒนาฟาร์มโคนมด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกษตรกรมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมนมที่มีอัตราการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น ด้วยผลผลิตที่มีคุณภาพ ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นในทุกปี พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลและอุตสาหกรรมนมแบบครบวงจรในระดับสากลและสนับสนุนแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมครอบคลุมอย่างครบวงจรด้านกิจการโคนม ตลอดจนให้การสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมแปรรูปจากน้ำนมดิบของเกษตรกรไทย มาเป็นผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์ตราไทย-เดนมาร์ค ให้ประชาชนคนไทยได้มีผลิตภัณฑ์นมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ได้บริโภคผลิตภัณฑ์นมที่ดี มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อร่างกาย       


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad