บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดผลดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 มีกำไร 381 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” Q2/67 ได้เต็มไตรมาส อานิสงส์ Q4/67 วินชัย เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นหนุนผลงานโตต่อเนื่อง ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุ พร้อมลงทุนเพิ่มหลังบอร์ดฯ อนุมัติเข้าลงทุนวินฟาร์มไต้หวันเพิ่มอีก 38 MW งบไม่เกิน 3,778 ล้านบาท เสริมพอร์ตโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) มีรายได้จากการขายและให้บริการ 816.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงานอยู่ที่ 127.7 ล้านบาท ขณะที่ งวด 6 เดือนของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,639.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงานอยู่ที่ 381.1 ล้านบาท
สำหรับ รายได้ของบริษัทฯ
ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อนหน้า มาจากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม
“วินชัย” ขนาด 45 เมกะวัตต์ ได้เต็มไตรมาส เข้ามาช่วยสนับสนุนภาพรวมรายได้เติบโต
แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากนี้ ธุรกิจให้บริการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อป (EPC)
ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากฐานลูกค้าที่ขยายเพิ่มขึ้นทั้งประเทศไทยและอินโดนีเซีย
รวมกับรายได้จากธุรกิจ Flexible Packaging
ที่เข้ามาหนุนรายได้ในไตรมาส 2
ทั้งนี้ หลังจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของวินชัย
ตั้งแต่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ภาพผลประกอบการของบริษัทฯ
จะเปลี่ยนไปโดดเด่นในช่วง Q1 และ Q4 ตามช่วงไฮซีซั่นของวินชัย
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ในประเทศไทยที่ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้า
(Availability Factor) ลดลงในไตรมาสนี้ เป็นอีกปัจจัยที่กระทบต่อผลการดำเนินงาน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า (Repowering) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมั่นใจว่าเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุน
เนื่องจากต้นทุนของอุปกรณ์ถูกลงและประสิทธิภาพดีขึ้น
ขณะที่ ความคืบหน้าโครงการในครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผน
การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น
กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานใน
Q4/68 และได้เข้าลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17
เมกะวัตต์ รวมถึงจัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ
บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท ลัคกี้ คลีน
เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ด้วยปริมาณไฟฟ้าเสนอขาย PEA 8.9
เมกะวัตต์
ล่าสุด
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง
38 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมืองผิงตง ประเทศไต้หวัน
ด้วยมูลค่าการลงทุนจำนวนไม่เกิน 3,778 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในส่วนของการปรับพอร์ตเงินลงทุน
บริษัทฯ ได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจจากหลายสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถลดต้นทุนทางการเงินและขยายฐานเงินลงทุนได้กว่าเท่าตัว
จากการเป็นธุรกิจพลังงานทดแทนซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนรอบใหญ่ของ
บริษัทฯ โดยปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตอยู่รวมที่ 282 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าเติบโตกว่า 600 เมกะวัตต์ในปี
2571
“บริษัทฯ อยากให้นักลงทุนมองว่า SSP ลงุทนโรงไฟฟ้าทุกประเภท
เพราะเราตั้งใจเป็น Renewable หรือ พลังงานที่ไม่มีวันหมด
โดยเราจะพิจารณาเลือกลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สามารถสร้างความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และมีโครงการอื่นๆ ในมือที่รอพัฒนา
เช่น โครงการวินฟาร์มในประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ โครงการโซล่าร์ฟาร์มไต้หวันเฟส 2 รวมไปถึงการลงทุนตามแผน
PDP ของประเทศไทย ที่คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในสิ้นปี 2567 นี้” นายวรุตม์ กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น