แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) ประกาศผลประกอบการด้านการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ประจำปี 2024 ว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมียอดขายประจำปีเพิ่มขึ้น 4% และยอดขาย B2B เติบโตอย่างโดดเด่นที่ 8%
ในปี 2024 แคสเปอร์สกี้ บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัลระดับโลก ประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยการขยายพอร์ตโฟลิโอโซลูชันและขยายธุรกิจในตลาดที่มีสภาพแวดล้อมเชิงบวก นอกเหนือจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องแล้ว แคสเปอร์สกี้ยังแสดงการเติบโตที่โดดเด่นและเพิ่มผลประกอบการให้สูงเป็นประวัติการณ์ โดยพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ระดับองค์กรชั้นนำต่อเนื่อง และยังคงเป็นผู้ให้บริการด้านการปกป้องผู้บริโภครายใหญ่
การเติบโตทางธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของยอดขายโซลูชันระดับองค์กร ได้แก่ Kaspersky Managed Detection and Response ซึ่งเพิ่มขึ้น 176% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) และ Kaspersky Hybrid Cloud Security ซึ่งเพิ่มขึ้น 150% อีกทั้งยอดขายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์หลักสำหรับผู้บริโภคซึ่งประกอบด้วยแผนผลิตภัณฑ์สามแผน ได้แก่ Kaspersky Standard, Kaspersky Plus, and Kaspersky Premium ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ 61%
นอกจากนี้ ปี 2024 ยังเป็นปีที่บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงใหม่ของบริษัท นั่นคือ Kaspersky Next เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสานการป้องกันเอ็นด์พอยต์ที่แข็งแกร่งเข้ากับความโปร่งใสและความรวดเร็วของ EDR (Endpoint Detection and Response) ควบคู่ไปกับการมองเห็นความเคลื่อนไหวและเครื่องมือทรงพลังของ XDR (Extended Detection and Response) ส่งผลให้ยอดขายในระบบนิเวศ B2B เพิ่มขึ้นอีก โซลูชัน Kaspersky Next XDR Expert เปิดให้ใช้งานครั้งแรกในปี 2023 และสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 100% ในปี 2024
นอกจากนี้ แคสเปอร์สกี้ยังได้ปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอ B2C และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอัปเกรดแอปสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android เพื่อเพิ่มระดับการป้องกันให้สูงขึ้น เพิ่มความเป็นส่วนตัว และปรับปรุงการใช้งานเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น
เอเดรียน เฮีย กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้รายงานการเติบโตที่โดดเด่นอีกปีหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแคสเปอร์สกี้ และความต้องการโซลูชันการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เชิงรุกอัจฉริยะที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ ตลอดจนความสามารถในการวิจัยที่แข็งแกร่งของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับภัยคุกคามไซเบอร์และมัลแวร์ที่ซับซ้อน แรงขับเคลื่อนนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแคสเปอร์สกี้ต่อนวัตกรรม ความยืดหยุ่น และการปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็คือสินทรัพย์ทางดิจิทัลและชื่อเสียงของลูกค้าของเรา”
แคสเปอร์สกี้ได้ขยายทีมขายและพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของบริษัท อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยเข้าร่วมการประเมินอิสระอย่างสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่นนี้ทำให้แคสเปอร์สกี้ได้รับรางวัลในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์มากกว่า 600 รางวัล นอกจากนี้ แคสเปอร์สกี้ยังได้รักษาความเป็นผู้นำในตัวชี้วัด TOP3 สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากภัยคุกคามไซเบอร์ได้แปรเปลี่ยนเป็นการโจมตีที่ล้ำหน้าและซับซ้อนมากขึ้น ในปี 2024 ธุรกิจและองค์กรทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างประสบกับภัยคุกคามจำนวนมาก โซลูชันของแคสเปอร์สกี้สามารถตรวจจับและบล็อกความพยายามโจมตีด้วยฟิชชิงทางการเงินได้ 534,759 รายการ ภัยคุกคามบนอุปกรณ์ 49,234,759 รายการ การโจมตีด้วยบรูทฟอร์ซ 53,399,664 รายการ และการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ 135,274 รายการ
เอเดรียนกล่าวเสริมว่า “แคสเปอร์สกี้มีพนักงานที่มีคุณสมบัติสูงมากกว่าห้าพันคน โดยครึ่งหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งทำให้เราสามารถมอบโซลูชันที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค องค์กร และรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคาม การปกป้องอุปกรณ์เอ็นด์พอยต์ และความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต แคสเปอร์สกี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ได้รับการทดสอบและได้รับรางวัลมากที่สุด และยังเป็นผู้มีส่วนร่วมที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ โดยสามารถปกป้องอุปกรณ์มากกว่าพันล้านเครื่องทั่วโลก”
Kaspersky Standard ซึ่งเป็นพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์หลักสำหรับผู้บริโภค ได้รับรางวัล Top-Rated Product Award ประจำปีจาก AV-Comparatives ด้วยมีผลลัพธ์ที่สูงในการทดสอบผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั้งชุดในปี 2024
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของแคสเปอร์สกี้ได้ที่ www.kaspersky.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น