“นี่คือรุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-beauty ที่ต้องคว้าโอกาสไว้” “ศรีจันทร์” SRICHAND โตต่อเนื่องทะลุ 1,600 ล้านบาท ผงาดอันดับ 1 ตลาดสกินแคร์แบรนด์ไทย - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

“นี่คือรุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-beauty ที่ต้องคว้าโอกาสไว้” “ศรีจันทร์” SRICHAND โตต่อเนื่องทะลุ 1,600 ล้านบาท ผงาดอันดับ 1 ตลาดสกินแคร์แบรนด์ไทย

 


เปิด 5 กลยุทธ์ “Purposeful Brand” สร้างแบรนด์ไทยระดับสากลที่คนไทยภูมิใจ

มั่นใจศักยภาพ “T-beauty” พร้อมขยายตลาดต่างประเทศ

Key Highlights :

● ความสำเร็จของศรีจันทร์ที่ทำรายได้รวมทะลุ 1,600 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องแบบ Double Ditgit ตั้งแต่ 2021-2024

และขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ ประกอบกับศักยภาพของ T-beauty ที่มาจากความนิยมแบรนด์ไทย ทำให้เวลานี้คือ

“ยุครุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” หรือ “The Dawn of Thai Beauty Era”

● “ศรีจันทร์” ไม่ได้มีแค่แป้ง แต่มีสินค้าในหมวด Beauty ที่แข็งแกร่ง ทั้ง เมคอัพ, สกินแคร์ ครีมกันแดด และมีแบรนด์ “ศศิ”

ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

● ศรีจันทร์เป็น Purposeful Brand ที่ตั้งเป้าหมายเป็น “แบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย”

ส่งผลต่อกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่มีความเป็น “Modern Classic Thainess” การคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ฯลฯ

● เปิดวิสัยทัศน์ความเชื่อมั่นต่อศักยภาพ “T-Beauty” และต่อยอดด้วยกลยุทธ์การส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ

  บริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “ศรีจันทร์ (SRICHAND)” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามสัญชาติไทย

ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 76 ปี และ “ศศิ (sasi)” สรุป 4 ความสำเร็จของธุรกิจตลอดปี 2021-2024 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดทำรายได้ 1,600 ล้านบาท ผงาดขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในตลาดสกินแคร์ พร้อมเผยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบ “Purposeful Brand”

ที่มีเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภูมิใจของคนไทย ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่กลยุทธ์การนำเสนอภาพลักษณ์แบบ Modern Classic Thainess การใช้พรีเซ็นเตอร์ การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ฯลฯ

พร้อมย้ำความเชื่อมั่นต่อ T-beauty ที่ทั้งไทยและต่างประเทศยอมรับ แม้กระทั่งญี่ปุ่นยังอิน “สุวาอิ เมคุ” เทรนด์การแต่งหน้าแบบไทย และเผยโอกาสในการรุกตลาดอาเซียนและเอเชีย ตั้งเป้าเติบโตในสัดส่วนการขายตลาดต่างประเทศเป็น 10-15% ใน 3 ปี

รับ “รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-beauty”


  นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จํากัด กล่าวว่า “บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ในช่วงปี 2021-2024 แม้จะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจากโควิด-19 แต่บริษัทสามารถปรับตัวรับความท้าทาย

และพลิกเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโต จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทำให้บริษัทสามารถมียอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2023 และเติบโตต่อเนื่องแบบ Double Digit ตั้งแต่ปี 2021-2024 โดยเฉพาะเมื่อดูจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR)


ของทั้งสองแบรนด์หลักอย่างศรีจันทร์ และ ศศิ ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงถึง 51% และ 53% ต่อปีตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2021–2024

สะท้อนการเติบโตของบริษัทที่มาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค”

สรุป 4 ความสำเร็จของบริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ในปี 2021-2025

● ความแข็งแกร่งของศรีจันทร์ที่ไม่ได้มีดีแค่ “แป้ง” แต่แข็งแกร่งในทุกประเภทผลิตภัณฑ์

● การเติบโตรายประเภทผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เมคอัพ (11%) สกินแคร์ (148%) ครีมกันแดด (73%)

● หมวดเมคอัพ สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ แป้งฝุ่นโปร่งแสง Bare to Perfect Translucent Powder (10 g) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแป้งฝุ่น (Loose Powder) ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566

ถึงเมษายน 2568 อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ ประเทศไทย

● ศรีจันทร์เข้าสู่ตลาดสกินแคร์ตั้งแต่ปี 2021 และในปี 2024 บริษัทสามารถมีการเติบโตถึง 117% ในหมวดสกินแคร์เมื่อเทียบกับปี 2023 และตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขาย 45% ในปี 2025

● หมวดสกินแคร์ สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet (10 ml)

เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face)

ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ถึงเมษายน 2568 อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ ประเทศไทย

● ศรีจันทร์เป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face)


ในประเทศไทย ระหว่างเดือนมกราคม 2567 ถึงเมษายน 2568 โดยมีอัตราการเติบโต 79% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่เติบโต 3.44% อ้างอิงจากรายงาน NielsenIQ ประเทศไทย ปี 2025

● การออกแบรนด์ “ศศิ” ที่จับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

● ก่อตั้งในปี 2017 เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและแฟชั่น และ เป็นตัวแทนความฝันและความหวังของคนรุ่นใหม่

● Positioning ของแบรนด์ ศศิ คือ “The most value for money yet trendy beauty & lifestyle brand”

แบรนด์ความงามและไลฟ์สไตล์ที่คุ้มค่าและทันสมัย

● หัวใจสำคัญของ ศศิ คือการออกแบบสินค้าโดยเข้าใจความต้องการของวัยรุ่นเช่น Kiss & Blush Multifunction Cosmetics ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย ชิ้นเดียวใช้ได้ทั้งตา แก้ม ปาก และ Acne Sol Collection ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิว รวมไปถึงการใช้สีที่โดดเด่นในกลุ่มเมคอัพ

● ศศิ มีการเติบโต CAGR มากกว่า 50% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2021-2024

● ยอดขายรวมของบริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด มีการเติบโตระดับ Double Digit ทุกปี และแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้สำเร็จ

● ยอดขายปี 2021 คือ 520 ล้านบาท

● ยอดขายปี 2022 คือ 717 ล้านบาท (+42.02%)

● ยอดขายปี 2023 คือ 1,019 ล้านบาท (+41.92%)

● ยอดขายปี 2024 คือ 1,600 ล้านบาท (58.98%)

● ตั้งเป้ายอดขายปี 2025 มากกว่า +30% - 40%

● รายได้รวมมาจากช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ 90% และออนไลน์ 10%

● การขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ สัญญาณที่ดีจากตลาดลาวและญี่ปุ่น

ศรีจันทร์มีการขยายสู่ตลาดลาว โดยมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ตั้งแต่ 2021-2024 อยู่ที่ 112.5% ต่อปี สินค้าที่ได้รับความนิยม

อยู่ในหมวดสกินแคร์ เช่น Moisture Burst Series, Sunscreen แป้งฝุ่นและรองพื้น สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมระดับประเทศ เช่น สนับสนุนการประกวด Miss Universe Laos ในปี 2022-2024 การจัดงานและสนับสนุน Laos Fashion Week 2024 ฯลฯ และมีการใช้ Local Brand Presenter คือ “Nethdao” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของลาว

นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณตลาดที่ดีในตลาดญี่ปุ่นอีกด้วย ปัจจุบัน ศรีจันทร์มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้ง

ในตลาดญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนั้น ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศรีจันทร์

ทำให้ BANDAI บริษัทผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่นขอซื้อลิขสิทธิ์ของตัวแป้ง เพื่อนำไปทำเป็นกาชาปอง โดยเลือกจากแป้งที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 แบบ

“ศรีจันทร์” เป็น Purposeful Brand ที่มีเป้าหมายคือความภูมิใจของคนไทย

เบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดปี 2021 - 2025 มาจากการที่ศรีจันทร์เป็น Purposeful Brand ที่มีเป้าหมายต้องการจะเป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภูมิใจของคนไทยจากการใส่ใจผู้บริโภค เป้าหมายดังกล่าวจึงเชื่อมโยงไปสู่ 4 กลยุทธ์คือ

  1. รักษาเอกลักษณ์ Modern Classic Thainess ของแบรนด์ไว้ด้วยความภูมิใจ

 ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ศรีจันทร์รักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ในแบรนด์มาตลอดตั้งแต่ชื่อแบรนด์ที่ไม่เคยเปลี่ยน

นับจากยุครีแบรนดิ้งที่เรานำเสนอความเป็นไทยที่ทันสมัยกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและแนวทางที่ศรีจันทร์รักษาเอกลักษณ์มาตลอด แม้กระทั่งการใส่คำว่า “SRICHAND BANGKOK 1948” ระบุเมืองและปีต้นกำเนิดลงในผลิตภัณฑ์เพื่อเน้นความสำคัญของรากฐานความเป็นไทยที่เป็นความภูมิใจของแบรนด์มาตลอด และต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภครู้สึกภูมิใจกับความเป็นแบรนด์ไทยไปด้วย

วิธีคิดยังสืบทอดไปถึงแบรนด์ sasi เช่นกัน

  2. การคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นตัวแทนความเป็นไทยร่วมสมัย

  กลยุทธ์ในการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของศรีจันทร์และ ศศิ คือ มองหาตัวแทนคนไทยที่มีความร่วมสมัยทั้งความคิด ความสามารถ และภาพลักษณ์ เข้าถึงง่าย ทำให้คนรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทย

ปัจจุบัน พรีเซ็นเตอร์ของศรีจันทร์ ได้แก่ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (Base Makeup) โบว์ เมลดา สุศรี (Sunscreen) แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล (SRICHAND IN-SKIN) และพรีเซ็นเตอร์ของ sasi ได้แก่ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต (Face of sasi- Lipstick & Eyebrow) และ PROXIE (Face of sasi- Loose Powder&Foundation)

   3. พัฒนาคุณภาพสินค้า ให้มีมาตรฐานเทียบเคียงระดับสากล

   ผ่านการลงทุนด้านคุณภาพ และ R&D เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เรื่องคุณภาพให้เป็นไปตามข้อกำหนด

ของบริษัท การพัฒนาสูตรต่างๆ มีการใช้ข้อมูล Market trend, Research ต่างๆประกอบรวมกัน และคัดเลือก Active Ingredients

ที่มีความโดดเด่นเรื่อง Technology และการทดสอบผลต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะดีและให้ผลเป็นไปตามที่ Claim ไว้ได้

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์โดดเด่นคือ

● Skincare : เลือกใช้ Glyceryl Glucoside (GG) ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้น Gen ใหม่ ร่วมกับสารให้ความชุ่มชื้น

ที่เป็นที่รู้จักดีอย่าง Sodium Hyaluronate กับ CICA ใน Skin Moisture Burst Series

● Base Makeup : Hybrid Foundation ที่มีส่วนผสมของ Skincare Active Ingredients มากถึง 86%

ของ Skin Booster Series ที่เทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

  4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดคนที่เชื่อแบบเดียวกันได้

 บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด มีกลยุทธ์ในการสร้างวัฒนธรรมในการทำงานที่มุ่งเน้น “Resilience” เพื่อให้พนักงาน

พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถดึงศักยภาพสูงสุดมาใช้ได้ โดยมี 4 แกนที่สำคัญคือ Outcome ผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมาย Accountability ความรับผิดชอบต่องานที่ทำอย่างเต็มที่ และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ Adaptability ปรับตัวและพร้อมเรียนรู้เรื่องใหม่ และ Speed คิดแล้วลงมือทำ ผิดพลาดรีบแก้ไข

นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับสวัสดิการที่ให้คุณค่าความเท่าเทียมและการพัฒนาศักยภาพ เช่น ลาคลอด

โดยได้รับค่าจ้าง (สูงสุด 6 เดือน) ลาดูแลภรรยาที่ตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร (สูงสุด 1 เดือน) ลาผ่าตัดแปลงเพศ (สูงสุด 1 เดือน) ลาพักใจ กรณีสูญเสียบุคคลในครอบครัว 10 วันต่อปี ลาปฏิบัติธรรมหรือศาสนกิจ ฯลฯ

การให้ความสำคัญกับพนักงานทำให้บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ได้รับการยอมรับในฐานะองค์กรที่คนรุ่นใหม่

อยากร่วมงานด้วย จากการได้รับคะแนนอันดับที่ 1 จาก 55 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยปี 2025 โดย QMAC : QGEN Thailand Most Attractive Companies 2025 ฯลฯ

ความเชื่อมั่นต่อ T-Beauty (Thai Beauty) และการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ

  คุณรวิศ กล่าวว่า “ในฐานะที่บริษัทฯ คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามของไทยมากว่า 76 ปี ทำให้เราจับตา

ดูกระแสความงามที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเพื่อนำมาพัฒนาแบรนด์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันกระแส T-Beauty

หรือ Thai Beauty ได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งส่งผ่านไปทางละคร ซีรีส์ เพลง ฯลฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์

ความงามของไทยได้รับความนิยมไปด้วย ทั้งการบริโภคในประเทศเอง หรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ก็มาซื้อผลิตภัณฑ์ความงามของไทยกลับไปด้วย ไปจนถึงความนิยมต่อแบรนด์ไทยในต่างประเทศ เห็นได้จากสัญญาณที่ดีจากยอดขายของศรีจันทร์ในตลาดลาว บวกกับประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตเป็นอย่างดี ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่า T-beauty มีศักยภาพมากพอที่จะเป็น Soft power ที่แข็งแรงของประเทศไทยได้”

 ศักยภาพของ T-beauty สะท้อนจากความนิยมแบรนด์ไทย เช่น

● ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์ไทยมีมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคไทย สะท้อนจากการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของไทยที่มีการเติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเติบโตของศรีจันทร์ที่มียอดขายปี 2024 ถึง 1,600 ล้านบาท เติบโตขึ้น 58.98% จากปีก่อน

● ในประเทศญี่ปุ่น มีเทรนด์ “สุวาอิ เมคุ” ซึ่งหมายถึงการแต่งหน้าแบบไทย ผิวใช้รองพื้นแบบกึ่งแมตต์ ปัดขนคิ้ว

ให้ตั้งขึ้นเล็กน้อย โชว์ขนคิ้วที่เรียงตัวเป็นธรรมชาติ ตาใช้อายแชโดว์โทนธรรมชาติ กรีดอายไลน์เนอร์

และปัดขนตาล่างให้ยาว ปากใช้ลิปสติกเนื้อเซมิแมตต์ และปัดแก้มเป็นวงรี โดยใช้สีที่ดูสุขภาพดี

● Made in Thailand คือคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง โดยเฉพาะจากมุมมองของตลาดในอาเซียน หรือ เอเชีย

ที่มองว่าสินค้าแบรนด์ไทย มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน อีกทั้งมีราคาเข้าถึงได้

  เมื่อ T-Beauty แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในระดับโลก ศรีจันทร์จึงต่อยอดความสำเร็จนี้ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ

ด้วยการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค โดยเป้าหมายหลักคือ ตลาดอาเซียน และตลาดเอเชีย

โดยกลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ คือ เน้นในการหาคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อเป็น Distributor ในแต่ละตลาด โดยจะมุ่งเน้นไปยัง

บริษัทท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการขายและทำการตลาดทั้ง Offline และ Online นอกเหนือจากการสร้างยอดขาย

และการขยาย distribution แล้ว ทางบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และการรับรู้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ

และนิยมในภูมิภาคเอเชีย โดยตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วนเป็น 10-15% ภายในเวลา 3 ปี

จากศักยภาพของบริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ที่มีรากฐานที่แข็งแรง บวกกับการยอมรับ T-beauty ในระดับสากล

ที่เพิ่มมากขึ้น และถือเป็น Soft power ที่สำคัญของประเทศไทย นี่จึงเป็นรุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-Beauty และศรีจันทร์

จะใช้โอกาสนี้ในการต่อยอดธุรกิจในตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อนำความเป็นไทยแบบ Modern Classic Thainess

ไปสู่ต่างประเทศผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของศรีจันทร์ ซึ่งสุดท้ายจะกลับมาตอบเป้าหมายการเป็น Purposeful brand ที่อยากจะเป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่เป็นความภูมิใจของคนไทย” คุณรวิศกล่าว

  อัพเดทข้อมูล และ สั่งซื้อสินค้าจากศรีจันทร์ ได้ที่ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

 รวมถึง https://www.facebook.com/srichand1948 , https://srichand.co.th/ และ Social Media ของ ศรีจันทร์ ทุกช่องทาง

###


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad