บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (“TIDLOR” หรือ “บริษัทฯ”) นำโดย คุณปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นอกจากธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างมากกว่า 100,000 ล้านบาท และถือเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกัน ภายใต้เจตนารมณ์ในการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยได้เพิ่มขึ้น จึงได้บุกเบิกธุรกิจในรูปแบบบริการผ่อนเบี้ยประกันรถยนต์ด้วยเงินสด 0% ซึ่งในเวลาต่อมาเป็นสิ่งที่ประชาชนรับรู้ถึงประโยชน์และเกิดเป็นความต้องการ กระทั่งปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานและบริการที่ธุรกิจนายหน้าประกันทั่วไป หันมานำเสนอบริการในรูปแบบดังกล่าวให้กับลูกค้าของตัวเองในวงกว้าง
ทั้งนี้
ภาพรวมการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัทฯ
มีสัดส่วนธุรกรรมจากลูกค้าที่ซื้อประกันสูงกว่าการขอสินเชื่อราว 3 เท่า และ 9 ใน 10 ของกรมธรรม์ที่ขายเป็นการขายให้แก่ลูกค้าที่เจาะจงเข้ามาซื้อประกันโดยเฉพาะ
ซึ่งเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกับลูกค้าสินเชื่อ
สะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ด้านแบรนด์ธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัทฯ
อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา
ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 47.3%
ต่อปี
ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจประกันวินาศภัยที่เติบโตเฉลี่ยเพียง 4.5%
ต่อปี หรือเปรียบได้ว่าภาพรวมธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัทฯ
เติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดถึง 10 เท่า
สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัทฯ
ในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
คุณอาฑิตยา พูนวัตถุ ผู้บริหาร ด้านธุรกิจประกันภัย กล่าวว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มียอดเบี้ยประกันวินาศภัยรวมมูลค่า 4,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงมีช่องทางการขายและให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งในรูปแบบ Face to Face ผ่านช่องทางสาขาเงินติดล้อทั่วประเทศ ผสมผสานเข้ากับการใช้เทคโนโลยีด้านนายหน้าประกันภัย (InsurTech Platform) ซึ่งบริษัทฯ ได้สร้าง พัฒนา และใช้เทคโนโลยีด้านประกัน มามากกว่า 10 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันได้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ดังนี้
1. แบรนด์ “ประกันติดโล่” (ชื่อเดิม ประกันติดล้อ) ธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ
Face to Face ซึ่งถือเป็นเบอร์ 1 ด้านการให้คำปรึกษาและเสนอขายประกันอย่างใกล้ชิดผ่านนายหน้าผู้เชี่ยวชาญกว่า
5,000 คน จากช่องทางสาขามากกว่า 1,700 แห่งทั่วประเทศ
นำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันที่ครอบคลุมทั้ง รถยนต์ คน และบ้าน
จากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง
พร้อมทางเลือกการผ่อนค่าเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0% ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จเกิดจากการใช้เทคโนโลยี
Insurance on Tablet ซึ่งบริษัทฯ
ได้สร้างและพัฒนาขึ้นมา เพื่อสนับสนุนการทำงานให้กับพนักงานในทุกสาขาทั่วประเทศ
ให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และเงื่อนไขความคุ้มครองด้านประกันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ปัจจุบัน “ประกันติดโล่”
ถือเป็นนายหน้าประกันที่รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ต้องการคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากนายหน้ามืออาชีพได้เป็นอย่างดี
2. แบรนด์
“อารีเกเตอร์” (Areegator)
แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ผ่านสมาชิกตัวแทนนายหน้าประกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์
“จริงใจ เข้าใจ เติบโตไปพร้อมกัน” ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีประกันภัย (Insurtech) เข้ามาช่วยสนับสนุนสมาชิก
ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 9,000 คน
และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ให้สามารถเข้าถึงระบบบริหารจัดการงานขายประกันที่สะดวก
และผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลาย นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันครอบคลุมทั้ง รถยนต์ คน
และบ้าน จากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง
โดยไม่ต้องมีเงินทุนตั้งต้น รวมถึงยังสามารถนำเสนอบริการผ่อนเบี้ยประกันด้วยเงินสด
0% ให้กับลูกค้าได้ โดยไม่ต้องสำรองเงินของตัวเอง นอกจากนี้
ยังมีจุดแข็งจากการเปิดโอกาสให้สมาชิกสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการแนะนำสินเชื่อทะเบียนรถให้กับลูกค้าที่อยู่ในละแวกชุมชนของตัวเองได้อีกด้วย
ซึ่งถือเป็นการผสมผสานทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ทั้งนี้
คาดว่าผลการดำเนินงานของอารีเกเตอร์ในปี 2567
จะมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ บริษัทฯ
ตั้งเป้าการเติบโตและคาดว่าจะมีเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นกว่า 19 เท่า
เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งถือเป็นปีแรกที่เปิดให้บริการ
นอกจากนี้ สมาชิกอารีเกเตอร์ยังมีรายได้โดยเฉลี่ยเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี
2566 สมาชิกได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 150,000 บาทต่อคน ซึ่งการที่สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น และเติบโตไปด้วยกัน
ยังเป็นเป้าหมายหลักของอารีเกเตอร์ ทั้งนี้ “อารีเกเตอร์” ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
Software-as-a-Service (SaaS) ถือเป็นแพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์
ที่ให้บริการผ่านสมาชิกนายหน้าประกันภัย หรือนักขายอิสระ
เพื่อขยายตลาดลงลึกเข้าไปในระดับชุมชนขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
3.
แบรนด์
“เฮ้กู๊ดดี้”
(heygoody) คือแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลโดยเฉพาะ
ที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มลูกค้าประกันรายย่อยที่ไม่ชอบการถูกรบกวนทางโทรศัพท์ และต้องการเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด
24
ชั่วโมง พร้อมรับความคุ้มครองทันที
โดยลูกค้าสามารถเปรียบเทียบเบี้ยและเงื่อนไขการรับประกันได้ด้วยตัวเองจากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า
15 แห่ง พร้อมทางเลือกในการชำระค่าเบี้ยด้วยการผ่อนเงินสดพร้อมดอกเบี้ย
0% นานสูงสุด 10 เดือน มีทั้งแบบผ่อนเท่ากันทุกเดือน
หรือผ่อนสดงวดแรกเริ่มต้นเพียง 1,000
บาท นอกจากนี้ยังสามารถผ่อนค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองที่ตรงใจ
ราคาเหมาะสม และสะดวกสบาย รวมถึงมีการออกแบบ Platform ที่ใช้งานง่าย
(User Friendly) เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองต่างๆ
ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากความเข้าใจกลุ่มลูกค้า
รวมถึงการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนายหน้าที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้ว
จึงทำให้เราสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาขึ้นเป็น heygoody ได้ในระยะเวลาอันสั้น
ทั้งนี้
หลังจากเปิดให้บริการในช่วงเดือนกันยายน 2566
ที่ผ่านมา “เฮ้กู๊ดดี้” ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
โดยมีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 2 ล้านคน
และจากข้อมูลเชิงลึกพบว่า ลูกค้ามากกว่า 40% ซื้อประกันในช่วงนอกเวลาทำการ
และผลการสำรวจความพึงพอใจพบว่าลูกค้ามากกว่า 96%
พึงพอใจในการเข้ามาใช้บริการกับ “เฮ้กู๊ดดี้” นับเป็นภาพสะท้อนของความสำเร็จสำหรับโบรกเกอร์ประกันออนไลน์เจ้าใหม่ในตลาดที่สามารถเข้ามาอยู่ในใจของลูกค้าและยังตอกย้ำถึงความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งในปี 2567 นี้ยังสามารถคว้ารางวัลในด้านการทำแพลตฟอร์มและการทำโฆษณาที่ตอบโจทย์ธุรกิจและลูกค้ากว่า
12 รางวัลในระดับเอเชีย และระดับโลก โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจนายหน้าประกัน
คัดเลือกประกันที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ “เฮ้กู๊ดดี้” ถือเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลที่ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานขายทางโทรศัพท์
(Telesales)
คุณปิยะศักดิ์
กล่าวว่า
ภาพรวมธุรกิจนายหน้าประกันในประเทศไทยมีสัดส่วนการซื้อประกันผ่านช่องทางนายหน้าสูงถึง
73% เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ
และยังมีจำนวนนายหน้าประกันอิสระในประเทศไทยมากกว่า 80,000 คน
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายหน้ารูปแบบดั้งเดิมที่อาจมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยมียอดเบี้ยประกันรวมในตลาดมูลค่ากว่า 285,000
ล้านบาท แต่บริษัทนายหน้าประกันเจ้าหลัก 10 อันดับแรก
มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันเพียง 29% เท่านั้น
แสดงให้เห็นว่าธุรกิจนายหน้าประกันยังไม่มีผู้ครอบครองหลัก นอกจากนี้ ข้อมูลรถยนต์จดทะเบียนในประเทศไทยมีจำนวน
19.8 ล้านคัน แต่มากกว่า 46% ยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายตัวของตลาดได้อีกมาก
ผนวกเข้ากับความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัทฯ
จากการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในการขยายและสร้างการเติบโต
รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่ยังมีอยู่อีกมากในอนาคต
จากผลการดำเนินงานของธุรกิจใหม่จากแบรนด์
“อารีเกเตอร์” (Areegator) และแบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้” (heygoody)
ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทฯ วางแผน จะปรับโครงสร้างพร้อมจัดตั้งบริษัทใหม่
เพื่อปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจนายหน้าประกัน มุ่งสู่ผู้นำด้าน InsurTech
Platform ที่จะเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเติมเต็ม TIDLOR
Ecosystem
เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านการเงินและประกันภัยที่แข็งแกร่งให้กับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
ด้วยเป้าหมายสูงสุดในการเป็นที่พึ่งทางด้านการเงินและส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยได้ทั่วถึง
ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้ภาพรวมธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดยในเดือนมิถุนายน
2567
ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM)
บริษัทฯ ได้มีการสื่อสารเรื่องแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการโดยได้มีการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัดแห่งใหม่
คือ บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“ติดล้อ
โฮลดิ้งส์”) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุน (Holding
Company) เพื่อเป็นบริษัทใหญ่ของกลุ่มบริษัท โดยภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ
จะสามารถลดความสับสนของนักลงทุนจากการจ่ายหุ้นปันผล
โดยจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินปันผลในรูปแบบเงินสด
รวมถึงการลดความสับสนของนักลงทุนเกี่ยวกับราคาหุ้น (Dilution) และกำไรต่อหุ้น (EPS) ซึ่งถือเป็นการสร้างความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ
ให้กับนักลงทุนได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาว
เนื่องจากจะเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจทั้งด้านสินเชื่อและนายหน้าประกัน
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
และยังช่วยเพิ่มโอกาสขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการหรือการร่วมลงทุน
อีกด้วย โครงสร้างแบบ Holding Company
จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัทในระยะยาว
โดยจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
และยังช่วยเพิ่มโอกาสขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการหรือการร่วมลงทุน
นอกจากนี้
ยังได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่
เพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech Platform ในอนาคต โดยบริษัทฯ
จะทำการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech
Platform ได้แก่ แบรนด์ “อารีเกเตอร์” (Areegator) และ แบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้”
(heygoody) รวมทั้ง ทรัพย์สินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ให้แก่บริษัทใหม่ ภายหลังจากที่หุ้นสามัญของ ติดล้อ โฮลดิ้งส์
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ซึ่งหลังจากการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้องดังกล่าวแล้วเสร็จ ติดล้อ โฮลดิ้งส์
จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัทใหม่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.99
โดยการจัดตั้งบริษัทใหม่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ
ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโครงสร้างการจัดการองค์กรให้เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของแต่ละธุรกิจ
และเพื่อให้มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารและจำกัดความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจที่มีลักษณะต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ซึ่งสถานะของการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทเป็น
Holding Company ขณะนี้ บริษัทฯ
อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้
โดยคาดว่า ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ (Tender
Offer) จากผู้ถือหุ้นเดิมโดยวิธีการแลกหุ้นที่อัตรา 1:1 ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ สำหรับผู้ถือหุ้น นักลงทุน
และผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น