เมื่อเร็วๆ นี้ นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายสำเนาว์ รัศมิทัต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง
นายมนัส รัศมิทัต ประธานอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้า นายสมชาย ดิษฐศร ที่ปรึกษาดำเนินการจัดการพื้นที่
สีเขียว ร่วมนำ โค้ชเป้ - ภัททพล เงินศรีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด วิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ เมย์ - รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันระดับโลกของประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง ผู้นำชุมชน ผู้บริหารและพนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก สานต่อภารกิจ ปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่มีค่าและหายาก ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นปีที่ 2 ณ “สวนป่า บางจากฯ เติมสุข สู่สังคม” ชุมชนบางน้ำผึ้ง (สวนป่าโรงควายเดิม) ตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ปอดกลางเมืองของกรุงเทพฯ” ถือเป็นระบบนิเวศป่าชายเลน
ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการดูดซับก๊าซเรือนกระจก ความหลากหลายทางชีวภาพ และคุณภาพชีวิต
ของชุมชนเมือง โดยในปีนี้ บางจากฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรและชุมชนในพื้นที่ ปลูกพันธุ์ไม้เศรษฐกิจจำนวน 950 ต้น รวม 8 ชนิด ประกอบด้วย ต้นตะเคียนทอง ต้นยางนา ต้นมะค่าโมง ต้นพะยอม ต้นประสักดอกแดง
ต้นประสักดอกขาว และพันธุ์ไม้หายาก 2 ชนิด ได้แก่ ต้นหลุมพอทะเล และต้นแดงน้ำ สานต่อจากปี 2567 ที่ได้
ปลูกไว้เกือบ 1,000 ต้น โดยร่วมพัฒนา “สวนป่า บางจากฯ เติมสุข สู่สังคม” ให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ พันธุกรรมพืชป่า พันธุ์ไม้หายาก แหล่งเรียนรู้ด้านธรรมชาติศึกษา และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่ายในการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกี่ยวกับบางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมันผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล ร้าน Lemon Green น้ำมันหล่อลื่น FURIO EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 3) กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจแนวใหม่ เช่น ธุรกิจ Battery as a Service สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie และได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
บางจากฯ ได้รับการจัดอันดับ Top 1% ระดับสูงสุดของโลกด้านความยั่งยืน ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing ใน S&P Sustainability Yearbook 2025 โดย S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี DJSI รวมถึงได้รับการจัดอันดับที่ 17 ใน Fortune Southeast Asia 500 และเป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินความยั่งยืน MSCI ESG Ratings ระดับ AA สูงสุดในกลุ่ม Oil & Gas Refining, Marketing, Transportation & Storage ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 และได้รับการยกย่องจาก Financial Times ให้เป็น Asia Pacific Climate Leader ในปี 2024 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล "สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567" (Kincentric Best Employer Thailand 2024) เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มธุรกิจน้ำมันของไทยที่ได้รับการยกย่องจากองค์กรชั้นนำระดับโลก
บางจากฯ ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangchak.co.th/th/home
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น