หลายๆคนที่มีอาการ “นิ่วในถุงน้ำดี” โดยปล่อยทิ้งไว้จนเกิดภาวะ “ถุงน้ำดีอักเสบ” มักจะมีอาการปวดท้องรุนแรงใต้ชายโครงขวา คลื่นไส้ อาเจียนและมีไข้จนต้องไปโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงเวลานั้นหลายคนกลับได้ยินคำแนะนำที่ไม่เหมือนกัน บางคนได้ยินหมอบอกว่า ควรผ่าตัดส่องกล้องถุงน้ำดีทันที แต่บางคนถูกบอกให้ “รอไปก่อน” แล้วจะเชื่อหมอท่านไหนดี? จนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่เหมือนกันว่า ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่
นพ.ศิรสิทธิ์ เลาหทัย ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของถุงน้ำดีอักเสบคือ นิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งคือน้ำดีที่ตกผลึกจนกลายเป็นก้อนเล็ก ๆ ไปอุดตันบริเวณคอของถุงน้ำดี ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อขึ้นมา โดยแนวทางการรักษาสากลนั้นแนะนำให้ผ่าตัดส่องกล้องถุงน้ำดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะจะเป็นช่วงที่ผ่าตัดได้ไม่ยากมาก ปลอดภัย ลดโอกาสอักเสบซ้ำ และไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน ๆ แต่ในชีวิตจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้าห้องผ่าตัดทันทีนะครับ
โดยอาจจะมีหลายปัจจัยที่เกี่
ยวข้องไม่ว่าจะเป็นความพร้
อมของร่างกายหรือข้อจำกัดต่าง ๆ ของระบบการรักษาพยาบาล ตลอดจนความชำนาญของศัลยแพทย์
-ในกรณีแรก หากผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคปอดหรือโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือมีการทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ การผ่าตัดถุงน้ำดีโดยทันที อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าการให้ยาฆ่าเชื้อ และเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมก่อนการผ่าตัด หลังจากอาการอักเสบสงบลง
-เมื่อถุงน้ำดีมีการอักเสบมาแล้วในระยะหนึ่ง (เกิน 72 ชั่วโมง) เนื้อเยื่อรอบ ๆ ถุงน้ำดีนั้นจะบวม แข็งตัว และมีเลือดมาเลี้ยงมากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ผ่าตัดได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงอาจจะเคยได้ยินมาว่า ให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อลดอาการอักเสบ รอให้หายติดเชื้อก่อน 4-6 สัปดาห์ จึงจะได้สามารถผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย แต่ทั้งนี้ขึ้นกับความชำนาญของศัลยแพทย์ด้วยเช่นกัน
-ปัจจัยจากข้อจำกัดต่าง ๆ ของระบบการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ ที่จะต้องรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก คิวห้องผ่าตัดอาจจะยาวเป็นหลักหลายเดือนจนถึงปี เพราะฉะนั้นการให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อลดอาการอักเสบ จึงอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อที่จะช่วยให้ไม่ต้องเลื่อนนัดผ่าตัดผู้ป่วยคนอื่น ๆที่ต่อคิวรอมาเป็นปีโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่
าตัดถุงน้ำดีในทันที หลาย ๆ คนก็ยังมีอาการปวดเป็น ๆ หาย ๆ กินอาหารไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียน ต้องเข้า ๆ ออกโรงพยาบาลหรือสุดท้ายจำเป็
นต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉินเนื่
องจากมีอาการปวดมาก หรือมีอาการอักเสบซ้ำซ้อน แต่เนื่องจากการผ่าตัดในช่วงนี้
อาจจะยากกว่าปกติได้ เพราะฉะนั้นการพิจารณาผ่าตัดกั
บศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นสิ่
งที่สำคัญเช่นเดียวกัน
ดังนั้น คำตอบว่าทำไมหมอบางคนบอกให้ผ่
าตัดเลย ขณะที่บางคนบอกให้รอ ไม่ได้เกิดจากความเห็นที่แตกต่
างกัน แต่เป็นเพราะหมอพิ
จารณาความปลอดภัย จากทั้งด้านสุขภาพของผู้ป่
วยและความข้อจำกัดของแต่
ละสถานการณ์ สิ่งสำคัญที่สุด หากเคยมีอาการถุงน้ำดีอักเสบแล้
ว ควรเฝ้าระวังอาการปวดรุนแรง มีไข้ หรือตัวเหลือง ตาเหลือง จำเป็นจะต้องไปโรงพยาบาลโดยด่
วนเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่
อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้ครับ
หากใครเริ่มมีอาการ
“นิ่วในถุงน้ำดี” อย่าเสี่ยงปล่อยทิ้งไว้เลยครับ แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ถึ
งการผ่าตัด อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้จนมี
ขนาดใหญ่ขึ้น เพราะเมื่อนิ่วในถุงน้ำดีมี
ขนาดใหญ่ขึ้น อาการจะปวดมากขึ้น ผ่าตัดยากขึ้นและมีโอกาสเกิ
ดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ติดตามหรือสอบถามรายละเอี
ยดของโรคกับผมได้ที่
Line@dr.sirasit,Tiktok@dr.sirasit , Instagram@dr.sirasit และ เฟซบุ๊กหมอโจอี้ นพ.ศิรสิทธิ์ เลาหทัย ศัลยแพทย์เฉพาะทางผ่าตัดส่องกล้อง หรือ Website : www.doctorsirasit.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น