23 – 26 ต.ค.นี้ มาดื่มมาดริ๊งค์ที่ฮ่องกง: เทศกาล Hong Kong Wine & Dine 2025 ลากยาวจัดเต็มถึงเที่ยงคืนเป็นครั้งแรก! รวมตัวเชฟมิชลินระดับโลก เสิร์ฟไวน์ตำนาน 170 ปีแห่งบอร์กโดซ์ เปิดจำหน่ายบัตรเข้างานแล้ววันนี้ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568

23 – 26 ต.ค.นี้ มาดื่มมาดริ๊งค์ที่ฮ่องกง: เทศกาล Hong Kong Wine & Dine 2025 ลากยาวจัดเต็มถึงเที่ยงคืนเป็นครั้งแรก! รวมตัวเชฟมิชลินระดับโลก เสิร์ฟไวน์ตำนาน 170 ปีแห่งบอร์กโดซ์ เปิดจำหน่ายบัตรเข้างานแล้ววันนี้

 


ฮ่องกง เตรียมเปิดฉากเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกที่ทุกคนรอคอยอีกครั้ง กับ งาน “Hong Kong Wine&Dine Festival” ที่จัดโดยการท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ร่วมกับสมาคมไวน์บอร์กโดซ์ (Bordeaux Wine Council: CIVB) โดยในปีนี้จะจัดเต็ม 4 วัน ระหว่างวันที่ 23 – 26 ตุลาคม ณ ลานกิจกรรม Central Harbourfront

ความพิเศษที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุดในปีนี้คือ การขยายเวลาจัดกิจกรรมไปจนถึงเที่ยงคืนเป็นครั้งแรก ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศปาร์ตี้สุดพิเศษได้ยาวนานยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการรวมตัวของสุดยอดเชฟระดับมิชลินและคอลเลกชันไวน์หายากที่อลังการกว่าที่เคย


ดร. ปีเตอร์ แลม ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ Hong Kong Wine & Dine Festival กลับมาพร้อมไลน์อัปที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการนำ BEA Grand Wine Pavilion และ Tasting Room กลับมาตามคำเรียกร้อง ทุกท่านจะได้พบกับคอลเลกชันไวน์ชั้นยอดจากบอร์กโดซ์ที่ติดอันดับในปี 1855 รวมถึงการรวมตัวของเชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังระดับโลกที่มารังสรรค์เมนูเลิศรสถึงในงาน ธีมของปีนี้คือ ‘REMIX. BEST OF ALL WORLDS’ ซึ่งสะท้อนพันธกิจของเราในการคัดสรรไวน์และอาหารชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อนำเสนอในรูปแบบผสมผสานที่มอบประสบการณ์การชิมที่เหนือชั้นกว่าใคร”

ไฮไลต์งานปี 2025: ดื่มด่ำโลกแห่งสุนทรียรสสุดประณีต

BEA Grand Wine Pavilion: คลังไวน์ตำนาน 170 ปี

BEA Grand Wine Pavilion เตรียมกลับมาพร้อมไวน์ระดับตำนานที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ให้ผู้เข้าชมได้เดินทางสู่ดินแดนไวน์ชื่อดังของโลกแบบ One-Stop Journey มาที่เดียวได้ครบทุกประสบการณ์:

 ฉลองครบรอบ 170 ปีของการจัดอันดับไวน์ “1855 Bordeaux Classification”: พาวิลเลียนนี้ได้รวบรวมไวน์ระดับตำนานจาก First Growth ทั้งห้าแห่งบอร์กโดซ์ ได้แก่ Lafite, Latour, Margaux, Haut-Brion และ Mouton ซึ่งเป็นการสดุดีแหล่งผลิตไวน์คุณภาพแห่งบอร์กโดซ์

 เคาน์เตอร์ James Suckling: พบกับเคาน์เตอร์สุดพิเศษที่คัดสรรโดยนักวิจารณ์ไวน์ระดับโลก James Suckling นำเสนอไวน์ชั้นยอดจากโลกเก่าและโลกใหม่กว่า 100 รายการ รวมถึงไวน์จีนที่เขาคัดสรรมาเองอย่างพิถีพิถัน

 World-Class Lineup: แผนที่ไวน์ครอบคลุมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Vega Sicilia ตำนานแห่งสเปน, Biondi-Santi สมบัติแห่งอิตาลี และ Colgin IX Estate จากสหรัฐฯ ที่ได้รับคะแนนเต็ม 100 จาก James Suckling พร้อมทั้ง วิสกี้ซิงเกิลมอลต์อายุ 56 ปี และเหล้าหายากอย่าง Kweichow Moutai

3 โซนเด่นปี 2025: เปิดวาร์ปทัพดาวเด่นแห่งวงการอาหาร

1. โซน Tasting Room: ดินเนอร์ 5 เชฟผนึกกำลัง ที่นิยามอาหารจีนใหม่


โซน Tasting Room ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามกลับมาอีกครั้ง พร้อมรวบรวมห้านักปรุงอาหารระดับโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการ มาร่วมกันเนรมิตค่ำคืนสุดพิเศษด้วยดินเนอร์ 10-Hand Collaboration ภายใต้แนวคิด “Taste the Extraordinary: Beyond Cantonese Flavour” ที่จะนิยามขอบเขตของอาหารจีนใหม่

เชฟระดับแนวหน้า ผู้จะมาร่วมสร้างค่ำคืนสุดประทับใจ ได้แก่:

Cheung Yat-fung

(จาง อี้ฟง)

 เชฟอาหารแต้จิ๋วระดับมิชลิน 3 ดาวจากปักกิ่ง Andrew Wong

(แอนดรูว์ หว่อง)

เชฟอาหารจีนคนแรกที่คว้า

มิชลิน 2 ดาวนอกทวีปเอเชีย Ji-sun Jung

(จี ซัน จอง)

"ราชินีติ่มซำ" จากรายการ Culinary Class Wars

 Jayson Tang

(เจย์สัน ถัง)

 เชฟมิชลินสตาร์รุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นอนุรักษ์มรดกอาหารกวางตุ้ง Menex Cheung

(เมเน็กซ์ เจียง)


 หัวหน้าเชฟที่โดดเด่นด้านอาหารจีนสไตล์ฟิวชันสุดสร้างสรรค์

หมายเหตุ: บัตรดินเนอร์ “Tasting Room” จะเริ่มจำหน่ายทาง Klook ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมนี้

2. โซน Towngas Gourmet Avenue: รวมสุดยอด 13 ดาวมิชลินไว้ในที่เดียว

โซน Towngas Gourmet Avenue ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก นำร้านอาหารชั้นนำ 12 แห่งของฮ่องกงมารวมกัน มอบโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายในการลิ้มรสอาหารจากร้านที่รวมกันแล้วมีถึงมิชลินรวม 13 ดาว และ Black Pearl Diamond 7 เม็ด ในโซนเดียว อาทิ

 L'Atelier de Joël Robuchon: อาหารฝรั่งเศสระดับมิชลิน 3 ดาว

 Forum Restaurant: อาหารกวางตุ้งระดับมิชลิน 3 ดาว

 Bo Innovation: อาหารแนว Innovative Cuisine ระดับมิชลิน 2 ดาว

3. Hotel Delicious: ชิมเมนูซิกเนเจอร์จากโรงแรมหรู

โซนยอดนิยม “Hotel Delicious” กลับมาอีกครั้ง โดยมี 11 โรงแรมชั้นนำของฮ่องกงเข้าร่วม ให้คุณได้ลิ้มลองเมนูซิกเนเจอร์ที่ปรุงสดๆ ในงาน อาทิ ข้าวมันไก่สไตล์ไหหลำอันเลื่องชื่อจาก Grand Hyatt หรือคุกกี้ Butterfly Cookies จาก The Royal Garden

ประสบการณ์ใหม่ที่ห้ามพลาดปี 2025

 Pairing Exploration Experience: กิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟใหม่ล่าสุด ที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองจับคู่รสชาติหลัก 5 รส (หวาน, เปรี้ยว, เผ็ด, เค็ม, อูมามิ) เข้ากับไวน์ 5 สายพันธุ์หลัก (Merlot, Chardonnay, Shiraz, Cabernet Sauvignon และ Sauvignon Blanc) ด้วยตัวเอง

 Disney-Themed Area: พบกับโซนพิเศษจาก Hong Kong Disneyland ที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟในธีมตัวละครดิสนีย์ รวมถึงค็อกเทลธีม Marvel และการเปิดตัวไวน์ Disney ครั้งแรกในงาน จากโรงกลั่น Frank Family Vineyards ซึ่งก่อตั้งโดย Rich Frank อดีตประธาน Walt Disney Studios

___

ข้อมูลงาน

เทศกาลปีนี้เตรียมต้อนรับผู้เข้าร่วมจากกว่า 31 ประเทศและเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมรวบรวมบูธกว่า 305 บูธ ทั่วพื้นที่ โดยแบ่งเป็นโซนไวน์ประมาณ 70% และโซนอาหารรสเลิศอีก 30% 

 ช่วงเวลาทำการ (ประตูทางเข้าปิดเวลา 23:30 น.)

23 ตุลาคม (พฤหัส) 19.30 น. – 00.00 น.

24 ตุลาคม (ศุกร์) 12.00 น. – 00.00 น.

25 ตุลาคม (เสาร์)

26 ตุลาคม (อาทิตย์)

 การจำหน่ายบัตร: บัตรเปิดจำหน่ายผ่าน Klook และ Trip.com ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม

โปรโมชันพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว

HKTB ร่วมกับพันธมิตรจัดเตรียมของขวัญสุดพิเศษ:

 “Guest Lite Pass” มูลค่ารวมกว่า HK$400 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าเกณฑ์ ประกอบด้วย บัตรเข้างาน Hong Kong Wine & Dine Festival, คูปองแลกชิม 4 โทเค็น, และแก้วไวน์ พร้อมคูปองส่วนลดจาก The Hong Kong Jockey Club และโปรโมชั่น

 ซื้อ 1 แถม 1 ตั๋ว Airport Express จาก MTR Corporation

สามารถแลกรับสิทธิและของขวัญได้จากช่องทางที่กำหนด อาทิ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ HKTB, โรงแรมที่พัก หรือการซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ร่วมรายการ

วิธีแลกรับสิทธิและของขวัญ

 เยี่ยมชมงาน Happy Wednesday: “Bollywood Night” ที่สนามแข่งม้า Happy Valley ในวันที่ 22 ตุลาคม

 ซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เข้าร่วมรายการ เช่น The Peak Tram, Ocean Park Hong Kong, Ngong Ping 360, M+ , Hong Kong Palace Museum และ WestK Performing Arts

 แวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ HKTB ระหว่างวันที่ 21–26 ตุลาคม

 นักท่องเที่ยวที่พักในโรงแรมที่ร่วมรายการระหว่างวันที่ 21–26 ตุลาคม

 เว็บไซต์ท่องเที่ยว หรือบริษัททัวร์ที่ร่วมรายการ

ศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ที่ https://www.discoverhongkong.com/eng/what-s-new/events/wine-dine-festival.html?popup=guest-pass

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad