- เศรษฐกิจไทยปลายไตรมาสที่ 3 ได้อานิสงส์จากการฟื้นตั
วของภาคอุตสาหกรรมในต่างประเทศ การส่งออกในเดือนกันยายนปรับตั วดีขึ้นมาก หดตัวเพียง 3.9% เทียบกับเดือนสิงหาคมที่หดตัว 7.9% ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมดีขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติก ฟื้นตัวได้ดีสอดคล้องกับทิ ศทางของภาคอุตสาหกรรมในต่ างประเทศ ส่วนการใช้จ่ายในประเทศฟื้นตั วโดยมีมาตรการของภาครัฐสนับสนุน สำหรับปีหน้าอาจจะมีปัญหาเรื่ องตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนทำให้ค่ าระวางเรือที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดย กกร.นำคณะไปหารือกั บกระทรวงคมนาคมเพื่อวางแผนรับมื อในอนาคต - การแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-
19 ที่รุนแรงในหลายประเทศเป็ นความเสี่ยงหลักในช่วงที่เหลื อของปี 2563 ประเทศหลักในสหภาพยุโรปประกาศล็ อกดาวน์ประมาณ 1 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิ กายนเพื่อรับมือกับการแพร่ ระบาดของโควิด-19 ซึ่งแม้การล็อกดาวน์ในครั้งนี้ จะเน้นจำกัดกิจกรรมของผู้บริโภค ไม่ได้ให้หยุดภาคการผลิต แต่ก็คาดว่าจะทำให้การฟื้นตั วของเศรษฐกิจโดยรวมแผ่วลง ในเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบ GDP ไทยในไตรมาสที่ 4 ราว 0.37-0.5% เนื่องจากคาดว่าจะมีผลกระทบต่ อความต้องการสินค้าส่งออก - ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่งผลต่อนโยบายการค้าและการลงทุ
นที่เปลี่ยนไปซึ่งมีผลทั้ งบวกและลบ โดยหากนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรั ฐฯ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสี ยงข้างมากทั้งในสภาผู้ แทนราษฎรและวุฒิสภา อาจจะส่งผลให้นโยบายการค้าระหว่ างประเทศของสหรัฐฯ กับคู่ค้ามีแนวโน้มกลับมาผ่ อนคลายมากขึ้น - หากไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่
ในประเทศไทย หรือสามารถควบคุมโรคให้อยู่ ในวงจำกัดได้ กอปรกับเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้ นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงที่ เหลือของปี เช่น มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการช้อปดีมีคืน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ที่ประชุม กกร. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 น่าจะฟื้นตัวได้ต่อไป สำหรับทั้งปี 2563 กกร. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตั วในกรอบ -9.0% ถึง -7.0% ขณะที่คาดว่าการส่งออกจะหดตั วในกรอบ -10.0% ถึง -8.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่ าอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -1.0%
กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2563 ของ กกร.
%YoY | ปี 2562 | ปี 2563 (ณ ต.ค. 63) | ปี 2563 (ณ พ.ย. 63) |
GDP | 2.4 | -9.0 ถึง -7.0 | -9.0 ถึง -7.0 |
ส่งออก | -2.7 | -10.0 ถึง -8.0 | -10.0 ถึง -8.0 |
เงินเฟ้อ | 0.7 | -1.5 ถึง -1.0 | -1.5 ถึง -1.0 |
- กกร.เห็นว่าเขตการค้าเสรี หรือ FTA เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่
อไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะFTA ในกรอกใหม่และปัจจุบันยังอยู่ ในการเตรียมการ เช่น FTA Thai-UK, FTA Thai-EU, CPTPP เป็นต้น ซึ่ง กกร.ได้พิจารณาแล้วว่ามีหลายข้ อบทที่เกี่ยวเนื่องกันใน FTA เกือบทุกกรอบ ทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคี ได้แก่ UPOV (การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่), CL (Compulsory Licensing), แรงงาน และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดย กกร.จะเสนอให้รัฐบาลจัดตั้ งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครั ฐที่มีกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่ างๆ กับ กกร. เพื่อให้มีการเตรียมตัวครอบคุ มในทุกภาคส่วน โดยอยากให้มีการจัดตั้งโดยเร็ วเพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในเวที การค้าโลก - สำหรับแผนการช่วยเหลือผู้
ประกอบการในภาคธุรกิจโรงแรมที่ มีข้อเสนอของภาคเอกชนได้ เสนอไปยังภาครัฐก่อนหน้านี้ เรื่องการตั้งกองทุนเพื่อซื้ อโรงแรมที่ยังมีศั กยภาพตามความเหมาะสม โดย กกร.ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่ อศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยละเอียด - จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้
อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้ องออกมาตรการปิดเมืองปิ ดประเทศหรือมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ กระจายของเชื้อโรคดังกล่าว ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่ อการเดินทางของนักธุรกิจชาวต่ างชาติ รวมทั้งวิกฤตินี้ ยังสะท้อนถึงปัญหาวีซ่าและใบอนุ ญาตทำงานของกลุ่มบุคคลดังกล่ าวอีกด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้แก้ไขปัญหาบางส่
โดย กกร.จะส่งข้อเสนอเพิ่มเติมไปยั
1 เสนอให้สามารถยื่นขอเปลี่
2 เสนอให้แรงงานต่างด้าวทักษะสู
3 เสนอให้ยกเว้นการรายงานตัวทุก 90 วันแก่แรงงานต่างด้าวทักษะสูง โดยให้แจ้งเฉพาะกรณีที่มีการย้
· กกร. ขอให้ภาครัฐเร่งรัดการจ่ายเงิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น