เมื่อเอ่ยถึงโรงพยาบาลรามาธิบดีหลายคนอาจคุ้นเคยกับภาพของโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ จุดหมายของผู้ป่วยจากทั่วทุกสารทิศ ที่ให้บริการผู้ป่วยนอกกว่า 2 ล้านครั้งต่อปี ผู้ป่วยที่ต่างหอบเอาความหวังที่อยากจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บมายังสถานที่แห่งนี้ ในอีกมุมหนึ่งโรงพยาบาลรามาธิบดียังเป็นโรงเรียนแพทย์เก่าแก่ก่อตั้งมานานมากกว่าห้าทศวรรษ เป็นสถานที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์หลากหลายสาขาให้มีความรู้ความสามารถที่เพียบพร้อม เพื่อออกไปทำงานรับใช้ประชาชน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการสาธารณสุขในทุกภูมิภาคของประเทศไทย...
หากให้เราลองนึกถึงบุคคลที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของโรงพยาบาลรามาธิบดี
หนึ่งในนั้นย่อมมีชื่อของ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลรวมอยู่ด้วย
บทบาทที่เป็นดั่งหัวหน้าครอบครัวใหญ่คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ ศ.นพ.ปิยะมิตร มุ่งมั่นพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ของวิทยาศาสตร์การแพทย์ไทยให้สมกับมาตรฐานแห่งการเป็น
‘โรงเรียนแพทย์ของแผ่นดิน’
หมวกสามใบใต้ร่มรามาธิบดี
ยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่านกับพัฒนาการของแพทยศาสตร์การศึกษาไทย
บทบาทการเป็นอาจารย์หมอผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักศึกษาแพทย์มานานกว่า
30 ปีของ ศ.นพ.ปิยะมิตร ทำให้เห็นพัฒนาการด้านการศึกษาของวงการแพทย์ไทย
ที่ค่อยๆปรับตัวจากยุคอนาล็อกมาสู่ดิจิทัลในปัจจุบัน
นอกจากนี้ การเรียนการสอนแพทย์ในปัจจุบันได้มีการนำศาสตร์วิชาความรู้ด้านอื่น ๆ เข้ามาผสมผสานร่วมด้วย เช่น หลักสูตรร่วมแพทยศาสตรบัณฑิต-การจัดการมหาบัณฑิต ที่มุ่งผลิต ‘แพทย์ นักบริหาร’ ที่มีศักยภาพด้านกระบวนการคิดวิเคราะห์และบริหารจัดการระบบสาธารณสุขให้สามารถรับมือกับวิกฤตสุขภาพและโรคอุบัติใหม่ที่มีแนวโน้ม จะมีมากขึ้นในอนาคต อีกหนึ่งหลักสูตรที่ถือเป็นการเปิดประตูสู่มิติใหม่ของวงการแพทยศาสตร์ไทยคือหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต-วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ เพื่อสร้าง ‘แพทย์นวัตกร’ ผู้มีทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ มองเห็นโอกาสและแก้ไขปัญหาด้วยหลักการทางวิศวกรรมรวมถึงสามารถต่อยอดความรู้เพื่อพัฒนางานวิจัยและสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักแก้ไขความบกพร่องของการสื่อความหมาย
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2508 นับถึงปัจจุบันมีอายุ
55 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิต ‘แพทย์นักวิจัย’
และ ‘ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change
Agent)’ ให้แก่สังคมไทย “เรามองว่าการดูแลรักษาพยาบาลและการวิจัยควรทำควบคู่กันไป
การรักษาเป็นภารกิจสำคัญของแพทย์ที่พึงกระทำอยู่แล้ว
ซึ่งเราอาจจะช่วยผู้ป่วยได้จำนวนหนึ่ง แต่การวิจัยหากค้นพบองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพทางการแพทย์ได้มากขึ้น จะสามารถช่วยชีวิตคนได้เพิ่มขึ้นจำนวนมากเป็นร้อยเป็นพันหรือหลายล้านคน
โดยหลักสูตรของรามาธิบดีได้เปิดโอกาสให้แพทย์ได้ทำการวิจัยในหลากหลายรูปแบบทั้งการวิจัยในห้องทดลองที่ทันสมัยและการวิจัยระบบสาธารณสุขเพื่อค้นหาวิธีการบริหารระบบสาธารณสุขมาพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น”
แรงผลักดันจากภาคประชาชน
หลายครั้งที่บุคลากรทางการแพทย์มักเป็นด่านหน้าของการรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนด้านสุขภาพในสังคม
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาคือกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
เพราะในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มีทางเลือกในการอยู่บ้านกับครอบครัวเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
แต่บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องออกมา
ปัจจุบันมูลนิธิรามาธิบดีฯ มีโครงการที่รอการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก เช่น โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ที่โรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายต้องดูแลกว่า 20 ล้านบาทต่อปี หรือโครงการเพื่อโรงพยาบาลชุมชน เพื่อพัฒนาให้โรงพยาบาลชุมชนสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ได้อย่างมีคุณภาพ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการทำงานของแพทย์ในทุกภารกิจได้ผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ชื่อบัญชี
มูลนิธิรามาธิบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่
026-3-05216-3 ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 090-3-50015-5
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 879-2-00448-3
บริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th สอบถามโทร 02-201-1111
#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น