เยาวชนไทยก้าวไปกับดิจิทัลและเทคโนโลยี...คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยงานวิศวกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม (ESR) นำโดย ผศ.ดร.กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อสังคม และ ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จัด 2 โครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโลกทัศน์พัฒนานักเรียนไทยสู่ยุค 5.0 ถ่ายทอดความรู้และฝึกทักษะการลงมือปฏิบัติในการใช้เทคโนโลยี IoT และ AI เพื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้จริง
โครงการแรก “ยกระดับโรงเรียนด้านเทคโนโลยี IoT สู่นวัตกรรมการศึกษาที่ยั่งยืน” ณ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลาบมัธยม) โดย ผศ.ดร.กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองคณบดีฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อสังคม กล่าวว่า เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้นักเรียนรู้และเข้าใจถึงเทคโนโลยีด้าน IoT ในเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในการพัฒนาระบบ IoT ตลอดจนการเชื่อมต่อโปรแกรมและ Sensor Modules รวมถึงการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ MQTT Protocol ไปยังแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อการควบคุม โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ อ.วรวิทย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อ.ชัยชนิตถ์ ชาญศิลปกุล คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.สุปรีย์ บูรณะกนิษฐ ในการถ่ายทอดให้ความรู้
ทั้งนี้ได้เปิดให้เยาวชนได้มี
ประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบั
ติจริง โดยได้จัดการแข่งขัน ในหัวข้อ
“เทคโนโลยี IoT สู่นวัตกรรมการศึกษาที่ยั่งยืน” นักเรียนแบ่งกลุ่มคิดโครงงานและนำเสนอผลงาน พร้อมทั้งสาธิตแก่คณะกรรมการ ผลการแข่งขัน มีดังนี้1. รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่ม The Manager จากผลงาน เครื่องให้อาหารสัตว์ IoT จำลอง โดยมีกระบอกใส่อาหารเม็ด และ Servo ควบคุมการปล่อย สั่งผ่านสมาร์ทโฟน และตรวจสอบว่าอาหารเม็ดใกล้จะหมดหรือไม่ พร้อมฟังก์ชันการแจ้งเตือน
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กลุ่มแฟนคลับโจอี้ จากผลงาน ระบบช่วยเหลือการสื่อสารกับผู้พิการทางการได้ยิน ด้วยการเตือนผ่านแสงสีในหอพัก โดยการจำลองนั้นจะใช้แผงวงจร Kidvbright (KB) จำนวน 3 แผงวงจร แผงวงจรที่ 1 จะอยู่ที่ห้องผู้ดูแลหอหัก แผงวงจรที่ 2 และ 3 อยู่ในห้องผู้บกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งจะสามารถเตือนด้วยการกระพริบด้วยแสง หรือ เปลี่ยนสี ไปตามกรณีต่างๆ เช่น มีผู้มาติดต่อ มีเหตุภัย (Alarm) เป็นต้น โดยสามารถดูผ่านสมาร์ทโฟนได้
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 กลุ่ม Punchinatomy จากผลงาน Microgreen IoT System เป็นระบบการเพาะเลี้ยงพืชแบบ ไมโครกรีน ผ่านสมาร์ทโฟน
4. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 กลุ่ม The Nerd Hurt จากผลงาน ระบบตรวจจับ วาวล์ก๊าซหุงต้ม ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ หากมีหรือลืมเปิดทิ้งไว้ ก็จะมีการแจ้งเตือนผ่านมือถือ และสั่งการตัดวาวล์จ่ายก๊าซ โดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับก๊าซ ร่วมกับ เซอร์โวมอเตอร์ และเซ็คความสว่างของเปลวไฟด้วย โฟโต้รีซีสเตอร์ (LDR) ซึ่งทำหน้าที่แปรผันตามแสงร่วมกับบอร์ด Kidvbright (KB)
5. รางวัล Popular Vote กลุ่มควบคุมการเปิดปิดหน้าต่าง จากผลงาน การจำลองบานหน้าต่าง เป็นโมเดลจำลองการตรวจสอบสถานะของหน้าต่าง และสามารถสั่งให้หน้าต่างปิดหรือเปิดได้ผ่านสมาร์ทโฟน ในกรณีลืมเปิดหน้าต่างไว้ หรือมีฝนตก ซึ่งจะทำงานร่วมกับแผงวงจร Kidvbright (KB) และเซนเซอร์ตรวจการเปิดปิดของหน้าต่าง รวมทั้งเซนเซอร์วัดความชื้น
ส่วนอีกโครงการ คือ “เสริมทักษะพัฒนา IoT & AI เพื่อเปิดโลกทัศน์เด็กไทยสู่ยุค 5.0” จัดขึ้น ณ โรงเรียนเทศบาล ๔ (เชาวนปรีชาอุทิศ) เป็นหลักสูตรเบื้องต้นในการเสริมสร้างให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ เข้าถึง และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี IoT & AI โดยสามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีการนิยมใช้อุปกรณ์ Smart Device กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความฉลาดและฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เหล่านี้เป็นความสามารถของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด สามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้ ร่วมกับ เทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ที่ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลาง ทำให้สามารถสั่งการ ควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ เช่น การใช้สมาร์ทโฟนควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิด ปรับอุณหภูมิ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้อย่างสะดวกสบาย หรือ รองเท้าวิ่งที่เชื่อมต่อข้อมูลการวิ่ง ทั้งความเร็ว ระยะทาง สถานที่ และสถิติได้ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น