บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการสืบสาน รักษา และต่อยอด มรดกอันทรงคุณค่าทางศิลปะวัฒนธรรมของไทย ให้ยังคงความดีงามอย่างยั่งยืน และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยสืบต่อไป พร้อมต่อยอดความสำเร็จของการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของไทยเบฟ ที่ต้องการ “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก”ตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบวิถีไทย ให้มีความยั่งยืน สอดรับกับนโยบายภาครัฐ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้วยการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน ให้ตระหนักถึงความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการส่งเสริม สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของไทย สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าของโลก ที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
“Water Festival 2024
เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” นับว่าเป็นงานสงกรานต์ต้นแบบของการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย
ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย
อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนในมิติต่าง ๆ อาทิ การสร้างการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การเก็บกลับรีไซเคิล การเชื่อมโยงต่อยอดเครือข่ายแห่งความยั่งยืนให้กับชุมชน การส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้
สร้างงาน และความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา การจัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนในช่วงการจัดงานรวม
6 จังหวัดทั่วประเทศ ให้มีรายได้กว่า 2.6 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนมากว่า
3 ล้านบาท
“Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ในปีนี้ยังคงเตรียมจัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ จากพลังความร่วมมือของหลายภาคส่วน นำโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายอีกหลายภาคส่วน ภายใต้แนวคิด
“เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” โดยมีบริการล่องเรือด่วนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ที่ให้บริการฟรีแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2567 ให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมสนุกและ ก้าวข้ามปีใหม่ไทยไปกับกิจกรรมมงคล 10 ประการที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ภาคใน 6 จังหวัด ทั่วประเทศไทย ได้แก่ ภาคกลาง จัดที่กรุงเทพมหานคร บน Landmark หลักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ท่ามหาราช, ท่ายอดพิมาน, ท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ท่าศาลเจ้ากวนอู และ คลองโอ่งอ่าง ภาคเหนือ ที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ ที่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่
และอีกหนึ่งความพิเศษของงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ในปีนี้คือการขยายพื้นที่จัดงานมาที่ “คลองโอ่งอ่าง” Landmark การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวต้นแบบในด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ (Landscape Improvement Project) การันตีด้วยรางวัล Asian Townscape Awards จาก UN-Habitat Fukuoka กับกิจกรรมมากมาย อาทิ พายเรือคายัคสุด Exclusive ทริปเจาะเวลาหาอดีต สัมผัสมนต์เสน่ห์ของวิถีชุมชนริมน้ำสมัยรัชกาลที่ 1 กับเรื่องเล่าสองฟากฝั่งตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุจนถึงสะพานวัดบพิตรพิมุข ร่วมช้อป ชม ชิม ไปกับร้านเด็ดเจ้าดังมากมาย รวมทั้งกิจกรรมตักบาตรทางน้ำ
“Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” นับเป็นเทศกาลงานสงกรานต์ที่ช่วยสืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามที่จัดขึ้นประจำปีมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากการผสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จากพลัง Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” และการเป็น Landmark การท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook: Water Festival Thailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น