ธนาคารไทยเครดิต คว้ารางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" จาก ก.ล.ต. - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ธนาคารไทยเครดิต คว้ารางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" จาก ก.ล.ต.



 กรุงเทพฯ 28 ตุลาคม 2567 - ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" (Sustainability Award) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในโครงการ "ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2" รางวัลนี้มอบให้แก่องค์กรที่มีความโดดเด่นในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมี นางสาวอาดา อิงคะวณิช กรรมการอิสระ เป็นผู้แทนธนาคารฯ เข้ารับรางวัลจาก นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรมพูลแมน คิงพาวเวอร์ (รางน้ำ)

โครงการ "ตังค์โต Know-how" ของธนาคารไทยเครดิต ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างความรู้ทางการเงินให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย นักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 200,000 คน ทั่วประเทศ


นางสาวอาดา อิงคะวณิช กรรมการอิสระ ธนาคารไทยเครดิต กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้จากสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสานต่อพันธกิจการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้แก่สังคมไทย เราเชื่อมั่นว่าความรู้ทางการเงิน การลงทุน เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โครงการ 'ตังค์โต Know-how' ไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตและธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนให้มีทักษะทางการเงิน อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน"

รางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" พิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงการดำเนินกิจกรรมที่มีผลลัพธ์ที่วัดได้อย่างเป็นรูปธรรม ระยะเวลาโครงการที่ต่อเนื่องอย่างน้อย 1 ปี และการสร้างเครือข่ายความรู้ที่สามารถขยายผลต่อไปได้

ธนาคารไทยเครดิตยืนหยัดที่จะส่งมอบความรู้ทางการเงิน การลงทุน ผ่านโครงการ "ตังค์โต Know-how" อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 10% ต่อปี และขยายการเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กว้างขวางยิ่งขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad