‘พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น’ หรือ PSGC (ชื่อย่อหลักทรัพย์ PSG) ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจรชั้นนำ ประเมินผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากโครงการ Resettlement Development ที่ปรับแผนก่อสร้างเร็วขึ้น และเตรียมรับรู้รายได้จาก Backlog ในมือกว่า 4,700 ล้านบาท ลุ้นงานก่อสร้างใหม่ 2 โครงการ เติม Backlog ปลายปี ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 68 มีรายได้ 1,307.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.8 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 มีรายได้ 664.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่ลดลงเนื่องจากผลต่างอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่กระทบการดำเนินงานปกติ
นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 2568 จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากปัจจัยโครงการก่อสร้างพื้นที่พัฒนาเพื่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ Resettlement Development ในพื้นที่ลาวเหนือ ได้มีการปรับปรุงแผนการดำเนินงานเพื่อให้ก่อสร้างได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้รับรู้รายได้ตามความสำเร็จของโครงการไปแล้วกว่าร้อยละ 28 โดยคาดว่า Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/68 กว่า 4,700 ล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีแนวโน้มจะได้รับโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารประกอบอุปกรณ์สนับสนุนสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเซกอง (XTPPL) ขนาด 1,800 เมกะวัตต์ และโครงการก่อสร้างระบบขนส่งเชื้อเพลิงและจัดการวัสดุคงเหลือสำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 1,800 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งสองโครงการมีมูลค่าโครงการใกล้เคียงกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน หากบรรลุข้อตกลงภายในสิ้นปีนี้ ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม Backlog กว่า 2 เท่าตัวจากปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผนการเติบโตในระยะกลางของบริษัทฯ
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) 2568 มีรายได้รวม 1,307.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.8 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากโครงการรับเหมาก่อสร้าง XPPL Expansion Phase 1 อยู่ในช่วงท้ายของสัญญางานก่อสร้าง
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 มีรายได้รวม 664.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 126 ล้านบาท จากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแปลงค่าเงินสำหรับรายงานทางบัญชี (Non-Cash Accounting Translation Adjustment) ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานหลักหรือกระแสเงินสด อย่างไรก็ตามหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ 120 ล้านบาท
“แม้เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลังมีความท้าทาย แต่เศรษฐกิจของ สปป.ลาว ยังเติบโตได้ดี โดยมีอุตสาหกรรมพลังงาน เหมืองแร่ และเกษตรกรรมเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจใน สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง” นายเดวิดกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น