14 พฤศจิกายน 2563 – บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ประเภทดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษั
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของ ซีพีเอฟ ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI อย่างต่อเนื่อง เป็นการตอกย้ำการดำเนิ
DJSI เป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิ ผลการดำเนินธุรกิ จตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยื นของบริษัทชั้นนำระดับโลก จัดทำขึ้นโดย S&P Global โดยเชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ทั่วโลกกว่า 3,500 แห่งใน 61 กลุ่มอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประเมินผลการดำเนิ นงานด้านความยั่งยืน ครอบคลุม 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และเป็นดัชนีที่นักลงทุนทั่ วโลกใช้ประกอบในการตัดสินใจลงทุ น
ในปีนี้ ซีพีเอฟ มีความโดดเด่นในหลายด้าน เช่น การเคารพสิทธิมนุษยชน (Human Rights) สุขภาพและโภชนาการ (Health & Nutrition) และการบริหารจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) เป็นต้น โดยในเรื่องสิทธิมนุษยชน บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจประเมิน (Due Diligence Process) เป็นประจำทุก 3 ปี ประกอบด้วยกระบวนการวิเคราะห์ และประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิ มนุษยชน การบริหารจัดการความเสี่ยง การติดตามและรายงานผลการดำเนิ นงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมทุกสายธุรกิจในกิ จการประเทศไทย ตลอดจนการคิดค้นและพั ฒนาอาหารเพื่อสุขภาพและมีคุณค่ าทางโภชนาการ ถือเป็นหัวใจในการผลิ ตอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน มากกว่า 30% ของผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ ที่มุ่งเน้นสุขโภชนาการ สุขภาพและสุขภาวะที่ดี
“การได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เป็นเครื่องยืนยันว่ ามาตรฐานการพัฒนาด้านความยั่งยื นของบริษัทเทียบเท่ามาตรฐานระดั บโลกและเป็นที่ยอมรับในระดั บสากล และยังเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติ บโตทางธุรกิจอย่างยั่งยื นในอนาคต” นายประสิทธิ์ กล่าว
ซีพีเอฟ มีการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์
ในภาวะที่โลกกำลังเผชิญกั บความท้าทายของสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโควิค-19 ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอย่ างรวดเร็ว เช่น สังคมวิถีปกติใหม่ (New Normal) และการเข้าสู่สังคมดิจิทัล นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ได้ดำเนินการตามกลยุทธ์ความยั่ งยืนด้วยการส่งมอบอาหารปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถเข้าถึงได้ ให้กับคนในสังคมทุกระดับไม่ เฉพาะในประเทศไทยแต่ยังรวมถึ งประเทศที่ ซีพีเอฟ เข้าไปลงทุนอีก 16 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกันยังได้ยกระดั บมาตรการป้องกันโรคในระดับสูงสุ ด เพื่อดูแลสุขภาพพนักงานทุกคนให้ ปลอดภัยจากโรคระบาด
“การดำเนินโครงการและกิจกรรมต่ างๆ ของ ซีพีเอฟ เป็นส่วนสำคั ญในการนำพาความภาคภูมิใจและกำลั งใจให้กับพนักงานของบริษัททุ กคนที่ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแก่ ประเทศชาติและสังคม” นายประสิทธิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น