พร้อมออกแคมเปญ “CHEWATHAI ฉลองครบรอบ 13 ปี” ลุ้นฟรี 13 ล้าน
“ชีวาทัย” เปิดเกมรุกวางเป้า 2 ปี ขึ้นที่
1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ เผยแผนธุรกิจปี 2564 เดินหน้ารักษามาตรฐาน Zero
Defect
เพื่อเป็นนักพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมอัดแคมเปญ “CHEWATHAI
ฉลองครบรอบ 13 ปี” ลุ้นฟรี 13 ล้าน ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2,500
ล้านบาท
นายบุญ ชุน เกียรติ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า
บริษัทได้การตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในใจของลูกค้าด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯช่วงรายได้น้อยกว่า
5 พันล้านบาท โดยในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ
Zero Defect ให้ได้มากที่สุด
เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด
ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย
อีกทั้งในปี 2564 บริษัทได้มีการจัดแคมเปญ
“CHEWATHAI ฉลองครบรอบ 13 ปี ลุ้นฟรี 13 ล้าน” ตลอดปี 2564
เพื่อตอกย้ำความสำเร็จและมอบของขวัญให้ลูกค้า เมื่อจองและโอนโครงการในเครือชีวาทัยระหว่างเดือนมีนาคม-
ธันวาคม 2564 มีสิทธิร่วมลุ้นรับบัญชีเงินฝากและ Voucher Central รวมมูลค่ากว่า
13 ล้านบาท
สำหรับในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่
2,500 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.64
พันล้านบาท เนื่องจาก ณ สิ้นปีบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,178 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ในปีนี้หลักๆ
มาจากคอนโดมีเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ อาทิ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์
ทองหล่อ มูลค่า 1 พันล้านบาท มี Backlog แล้ว 56% และโครงการชีวาทัย ฮอลมาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส
1 มูลค่า 1.1 พันล้านบาท Backlog 60% นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ
ทั้งแนวสูงและแนวราบที่จะทยอยโอนเข้ามาอีก โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก Backlog
ที่มีอยู่ในปีนี้ อยู่ที่ 1,611 ล้านบาท และส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
“สถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ
ในปี 2564 สำหรับชีวาทัยมองว่าเป็นปีแห่งการฟื้นฟูเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
แม้ในช่วงที่ผ่านมาเรายังไม่มีการลงทุนหรือพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทำให้บริษัทมุ่งเน้นไปที่การบริหารการขายที่มีประสิทธิภาพเพื่อระบายสต็อกจากโครงการเดิมให้ได้มากที่สุด
สำหรับปีนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่เริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้น
บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ
โดยปีนี้วางแผนเพื่อเข้าซื้อที่ดิน จำนวน 3 แปลง พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 1
แปลง และคอนโดมีเนียม Low-Rise 2 แปลง
มูลค่าโครงการ 2,830 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม
เรายังต้องระมัดระมัดและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบในการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลานี้อีกด้วย
เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2563
บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 120.43 ล้านบาท เติบโต 318.69% จากปี
2562 บริษัทขาดทุน 55.07 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,643.32
ล้านบาท เติบโต 45.58% จากปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่
1,128.81 ล้านบาท ขณะเดียวกันในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่
15 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติจ่ายเงินปันผล 0.0209 บาทต่อหุ้น
โดยบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 เม.ย. 2564 ณ ห้องแมนดารินเอ ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน
ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล
(XD) วันที่ 8 เม.ย. 2564 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record
date) ในวันที่ 9 เม.ย. 2564 และบริษัทมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30
เม.ย. 2564
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น