DEMCO ลั่นปี 64 เข้าโหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังตุนงานในมือแน่นกว่า 3.4 พันลบ. อานิสงส์รัฐ-เอกชน เร่งขยายการลงทุน - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

DEMCO ลั่นปี 64 เข้าโหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังตุนงานในมือแน่นกว่า 3.4 พันลบ. อานิสงส์รัฐ-เอกชน เร่งขยายการลงทุน

 


DEMCO ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 64 เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ภาครัฐ-เอกชน ลุยเปิดประมูลงานใหม่เพิ่ม ดันงานในมือพุ่ง ล่าสุดตุน Backlog กว่า 3.4 พันล้านบาท พร้อมยื่นประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง แถมยังมีลุ้นคว้างานภาคเอกชนเพิ่ม จากโปรเจคโซลาร์ฟาร์มภาครัฐ

 

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ คาดว่าจะเข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ หลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การส่งมอบงานมีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ตามแผน โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 3.4 พันล้านบาท เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย การลงทุนของภาครัฐ และเอกชน จะเริ่มเปิดประมูลงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของงานรับเหมาฯ ยังคงเน้นรับงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งมีงานที่จะเปิดให้ประมูลอีกมูลค่ากว่า 1-2 หมื่นล้านบาท

 

นอกจากนี้ ยังมีงานประเภทที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบไฟเบอร์ออฟติกของบริษัทเอกชน ที่จะมีการลงทุนในปี 2564 ซึ่งจะช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโอกาสได้รับงานก่อสร้างเพิ่มจากบริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์ม จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งในเฟสแรกจะนำร่อง 300 เมกะวัตต์ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคเอกชนขอรับใบอนุญาต PPA ภายในปีนี้

 

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา จากงานในมือที่มี และมีโอกาสคว้างานใหม่เพิ่มเติม รวมไปถึงการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นอีกปัจจัยหนุนที่สำคัญ ที่ทำให้รายได้และกำไรกลับมาเติบโตอย่างมั่นคง ”นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 

อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563 มีรายได้รวม 2,497.12 ล้านบาท ลดลง 15.1% เทียบปี 2562 มีรายได้รวม 2,937.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 55.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.89% เมื่อเทียบกับปี 2562 มีกำไรสุทธิ 34.96 ล้านบาท สาเหตุมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ขณะที่อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 1.19% เป็น 2.21%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad