สิงห์ เอสเตท เดินหน้าตามแผน เผยผลประกอบการไตรมาส 1 สุดประทับใจ มี ราย ได้แตะ 4,034 ล้าน บาท ประกอบกับกำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 46% - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

สิงห์ เอสเตท เดินหน้าตามแผน เผยผลประกอบการไตรมาส 1 สุดประทับใจ มี ราย ได้แตะ 4,034 ล้าน บาท ประกอบกับกำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 46%

 สิงห์ เอสเตท รายงาน ราย ได้จากการขายและการบริการรวมไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 4,034 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น อย่างโดดเด่น 21% YoY และมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 46% YoY ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลมาจากการขยายธุรกิจโดยรวมในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จในการแนะนำโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และกลยุทธ์ธุรกิจการบริการที่มุ่งเน้นไปที่การปรับราคาห้องพักให้เหมาะสมและเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ห้องพัก โดยอย่างหลังมีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโต ในรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ทิศทางเชิงกลยุทธ์นี้มุ่งสู่การส่งเสริมการสร้างมูลค่าและการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้



กรุงเทพฯ (
 14 พฤษภาคม 2567 ) - บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ด้วย มีรายได้รวมแตะ 4,034 ล้านบาทโดย เป็น รายได้997ล้าน บาท จากการขายอสังหาริมทรัพย์ เติบโตโดดเด่น การเติบโตนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงความสำเร็จในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง หลังจากการพัฒนาที่ดินและระบบสาธารณูปโภคแล้วเสร็จในปลายปี 2566 และความสำเร็จในการโอนยูนิตสำหรับไตรมาสแรกของโครงการดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ ในขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมมีจำนวน 3,037 ล้านบาทบ่ง ชี้การ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากธุรกิจการค้าเชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้น12% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเช่าที่เพิ่มขึ้นของ S-OASIS นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจการบริการเพิ่มขึ้น8% ได้แรงหนุนจากการเปิดตัวประเภทห้องพักใหม่ ส่งผลให้ อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ทั่วทั้งพอร์ตเพิ่มขึ้น24% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับปรุงสินทรัพย์เป้าหมาย

ในระหว่างไตรมาสดังกล่าว สิงห์ เอสเตท มองเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยและโรงแรมสองแห่งภายในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ ซึ่งดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการเข้าพักที่น่าประทับใจสูงถึง 89% และ อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (ADR) เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2566 ในทำนองเดียวกัน โรงแรมในสาธารณรัฐฟิจิที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ ส่งผลให้รายได้ต่อห้องว่าง (RevPAR) เพิ่มขึ้นอย่างดีเยี่ยมถึง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากจะบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนแล้ว บริษัทยังประสบความสำเร็จในการออก หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี มูลค่าจองซื้อ 1,000 ล้านบาท การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของธุรกิจและมอบผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น สิงห์ เอสเตท ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานในทุกด้าน ส่งมอบคุณค่าและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตท ยังได้รับรางวัล “บริษัทที่น่าชื่นชมที่สุดในประเทศไทย” ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จากนิตยสาร BrandAge ยกย่องการอุทิศตนเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน



นางฐิติมา รังขวัญสิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S)
 เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของเรา ตอกย้ำความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของสิงห์ เอสเตท ในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืน ขณะเดียวกันก็รักษามาตรฐานคุณภาพ 'Best in Class' ความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ในทุกกลุ่มพอร์ตโฟลิโอให้ผลลัพธ์เชิงบวก ปลูกฝังความมั่นใจ และได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของเรา เห็นได้ชัดจากความสำเร็จในการเปิดตลาดในหลายโครงการ เช่น โครงการศรีริน ราชพฤกษ์-สาย 1, ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ และ เอส อินดัสเทรียล นิคม อ่างทอง ซึ่งทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ในธุรกิจการบริการของเราในหลายประเทศ เราได้สังเกตเห็นแนวโน้มเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกยอดจองห้องพักในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สิ่งนี้ทำหน้าที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกของเรา ซึ่งรวมถึงการขยายช่องทางการขายเพื่อเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และการนำกลยุทธ์การกำหนดราคาที่มีประสิทธิภาพไปใช้ สิ่งนี้สะท้อนถึงแนวทางการดำเนินงานของ SO/ Maldive ซึ่งเป็นโรงแรมหรูที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งแสดงให้เห็นแรงผลักดันเชิงบวกมาโดยตลอด ปัจจัยเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายการดำเนินงานที่ตั้งไว้ในปี 2567

สิงห์ เอสเตท มั่นใจดันรายได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ตั้งเป้าโต 18,000 ล้านบาทภายในปีงบประมาณนี้ การมองในแง่ดีนี้เกิดขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สิ้นปี 2566 ความคืบหน้าที่โดดเด่นสังเกตได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัย เช่น สิรานิน เรสซิเดนซ์, สริน และการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก โครงการดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 โดยในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 สิงห์ เอสเตท เตรียมเปิดตัว 2 โครงการ โปรเจ็กต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น SHAWN ปัญญาอินทรา และ SHAWN วงแหวน – จตุโชติ กิจการเหล่านี้นำเสนอบ้านเดี่ยวสุดหรูระดับพรีเมี่ยม ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ในย่านรามอินทราที่กำลังขยายตัว โดยมุ่งเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆ เมื่อมองไปข้างหน้า บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการเพิ่มเติมอีก 4 โครงการก่อนสิ้นปี ซึ่งประกอบด้วย 2 โครงการแนวราบ โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 บาท ล้าน. ภายในสิ้นปี 2567 สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้ามี โครงการพร้อมขาย 14 โครงการ มูลค่าสะสมเกิน 37,000 ล้านบาท บริษัทตั้งเป้า การเติบโตของรายได้ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 50% ในปี 2567 โดยส่วนหนึ่งของการเติบโตนี้มาจากยอดขายที่รอส่งมอบจำนวนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่ง คาด ว่า จะ ทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ตลอดปี 2567

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของสิงห์ เอสเตท คือ การขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมการบริการที่สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวทั่วโลก โรงแรมของบริษัทใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งและตำแหน่งทางการตลาดภายในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท จึงเป็นเลิศในด้านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์และแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากนี้ ในปี 2567 กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพโรงแรมที่มีศักยภาพสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

นางฐิติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับทรัพย์สินอีก 2 รายการที่อยู่ในระยะขยายตลาด ได้แก่ S-OASIA และนิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องในการขยายไปสู่ฐานลูกค้าเป้าหมาย ดังนั้นการค่อยๆ ยึดครองพื้นที่โดยผู้เช่าหลักและดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นในแต่ละอุตสาหกรรม มีแนวโน้มที่จะผลักดันอัตราการขายพื้นที่ในอนาคตให้สูงขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นิคมอุตสาหกรรม และโครงการโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา สำหรับสิงห์ เอสเตท ปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากความพยายามพื้นฐานและการลงทุนในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา เรามั่นใจในการบรรลุเป้าหมายรายได้รวมสูงสุดตลอดกาลใหม่ของเรา โดยได้แรงหนุนจากอัตราการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งและวินัยทางการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการเติบโตขององค์กรที่ยั่งยืนในขณะเดียวกันก็ส่งมอบคุณค่าในทุกภาคส่วน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad