บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าจากกรุงเทพฯ และมีพันธมิตรระดับโลก มีความเชี่ยวชาญในการเลือกสรรทำเลศักยภาพ พร้อมระบบการเดินทางที่สะดวกสบาย ขยายตลาดสู่จังหวัดภูเก็ต กับ โครงการ “มิรา วัลเลย์” (MIRA VALLEY) ที่โดดเด่นด้วยแนวคิดการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส บนพื้นที่ทำเลศักยภาพท่ามกลางขุนเขา ที่ผสานความเงียบสงบของธรรมชาติเข้ากับจุดเชื่อมต่อในการเดินทางเข้าสู่เมืองและสนามบิน เพียง 30 นาที และสามารถเข้าถึงแหล่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน รองรับความต้องการในการใช้ชีวิตประจำวัน เพียง 15 นาที เดินหน้าเปิดโครงการใหม่พร้อมเจรจาพันธมิตรร่วมลงทุนโครงการอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดย นางสาวพัชราวลัย เรืองกฤตยา (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิรา วัลเลย์ ภูเก็ต จับมือกับ นางสาวผกามาศ อ่อนชาติ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทูพลัส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ภายใต้ชื่อ “ปุญญิสา” พันธมิตรท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีที่มีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเข้าใจความต้องการของลูกค้าในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาโครงการวิลล่าใหม่ “ปุญญิสา พชิรา” และเป็นการผนึกกำลังระหว่างความเชี่ยวชาญในระดับสากลของอนันดาฯ กับความรู้และอินไซต์ท้องถิ่นของปุญญิสา เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในภูเก็ต
ปุญญิสา พชิรา วิลล่าระดับอัลตร้าลักชัวรี ที่ก่อตั้งและออกแบบโดย แมรี่ ผกามาศ นักออกแบบและสถาปนิกตกแต่งภายในชื่อดัง วิลล่าแต่ละหลังถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้อยู่อาศัย การออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อสร้างความไหลลื่นระหว่างแต่ละพื้นที่ ให้ความรู้สึกทั้งความเปิดกว้างและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน การจัดวางอย่างรอบคอบผสมผสานพื้นที่สำหรับการสังสรรค์กับพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวได้อย่างสมดุล การปรับเปลี่ยนผังบ้านไปจนถึงการผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะตัว ตั้งแต่โครงสร้างสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ ตัวอาคารที่งดงาม รวมถึงการออกแบบภูมิทัศน์อย่างประณีต ทุกหลัง คือ การสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านที่ถูกถ่ายทอดด้วยฝีมือและความชำนาญของ แมรี่ ผกามาศ บ้านที่ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นงานศิลป์ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าทั้งหมด 9 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ ท่ามกลางขุนเขาอันเงียบสงบของภูเก็ต บนพื้นที่ภายในโครงการ มิรา วัลเลย์
มิรา วัลเลย์ โครงการบนพื้นที่กว่า 550 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กว่า 20,000 ไร่ ณ ทำเลที่ตั้งอันงดงามติดเทือกเขากมลาและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จังหวัดภูเก็ต ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ภายใต้แนวคิดการอยู่อาศัยที่เชื่อมโยงธรรมชาติกับความหรูหราในรูปแบบใหม่ ด้วยการวาง Master Plan ระดับ World-Class ที่คำนึงถึงมิติของการออกแบบ ฟังก์ชันการใช้ชีวิต และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับครอบครัวที่รักกิจกรรมแบบแอคทีฟ ด้วยการผสานไลฟ์สไตล์กลางแจ้งเข้ากับการอยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ พร้อมเชื่อมต่อเส้นทางวิ่งเทรลธรรมชาติยาวกว่า 100 กิโลเมตร มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่ใส่ใจการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพท่ามกลางธรรมชาติ และความสะดวกสบายในที่เดียวกัน โดยภายในโครงการมี Sandals and Boots Club (แซนดัลส์ แอนด์ บูทส์ คลับ) คลับเฮ้าส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟใจกลาง MIRA VALLEY (มิรา วัลเลย์) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะสวมรองเท้าแตะไปพักผ่อนหย่อนใจที่คาเฟ่ หรือสวมรองเท้าบูทออกไปผจญภัย คลับแห่งนี้พร้อมเติมเต็มทุกห้วงอารมณ์ของการใช้ชีวิต ภายในคลับประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาด Olympic คาเฟ่และร้านอาหารสำหรับการพบปะสังสรรค์ และฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ทันสมัยพร้อมสตรีม - ซาวน่า และ ไอซ์บาร์ท สำหรับฟื้นฟูร่างกาย สำหรับครอบครัว มีสนามเด็กเล่นที่ปลอดภัยและสนุกสนาน ในขณะที่ผู้รักการเล่นกีฬาสามารถเพลิดเพลินกับสนามเทนนิส สนามพาเดล และสนามกีฬาอเนกประสงค์ พร้อมเส้นทางจักรยานและวิ่งที่โอบล้อมด้วยทัศนียภาพงดงาม นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีพื้นที่ในส่วนของ ทาวน์ สแควร์ ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร ด้วยทำเลที่ตั้งของมิรา วัลเลย์ มีความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นส่วนต่อขยายของเมืองภูเก็ต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัดและใช้เวลาเดินทางยาวนาน ทำให้โครงการนี้มีความสะดวกสบาย การเดินทางเชื่อมต่อโดยตรงกับเส้นทางหลัก ลดเวลาเดินทางและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย เพียง 15 นาที สามารถเข้าถึงทุกแหล่งสำคัญของการใช้ชีวิต ทั้งโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพ ห้างสรรพสินค้า โครงการมุ่งสร้างชุมชนที่ยั่งยืนและกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่ผสานแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าไว้ในทุกมิติของโครงการภายใต้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืน รวมถึงการใช้ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน 100% เพื่อลดผลกระทบต่อทัศนียภาพ
“จากการได้มาใช้ชีวิตและศึกษาตลาดมากกว่า 5 ปีที่ภูเก็ต ทำให้เราเข้าใจวิถีการใช้ชีวิตของคนที่นี่จริงๆ จึงเกิดแนวคิดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ “Sustainable & Naturally Connected Community” สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน เน้นการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการเต็มรูปแบบ ครบจบในที่เดียว และเรามุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ภายใต้มาตรฐาน LEED cities & communities certified เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของคนในโครงการและชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน” นางสาวพัชราวลัย กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น