เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามี
- การศึกษาไทยเน้นปริมาณ : งบประมาณด้านการศึกษาของไทยไม่
ใช่ปัญหา โดยมีงบอุดหนุนต่อนักเรียน 1 คนที่ระดับประมาณ 20% ของรายได้เฉลี่ยประเทศ ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคี ยงประเทศพัฒนาแล้ว แต่มักเป็นการใช้จ่ายไปกับสิ่ งที่ไม่ได้ใช้งานจริง เช่น อุปกรณ์ช่วยการสอนที่ครูอาจไม่ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็ มที่ หรือการเพิ่มเวลาเรียนให้กับเด็ กโดยไม่ได้คำนึงถึงคุ ณภาพการสอนควบคู่กัน - การจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตรงจุด : ขาดการวิจัยและพัฒนาและการปรั
บปรุงคุณภาพบุคลากร วิธีการจัดสรรงบประมาณในปัจจุบั นอาจซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำ คือ จัดสรรงบประมาณตามจำนวนหัว โดยนำงบทั้งหมดหารด้วยจำนวนนั กเรียน แล้วให้งบแก่โรงเรียนตามจำนวนนั กเรียนทั้งหมด ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กเสียเปรี ยบและได้รับเงินอุดหนุนไม่เพี ยงพอ - ครูมีจำนวนไม่เพียงพอ: ครูไทยขาดแคลนกว่า 30,000 คนในโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะการจัดสรรครูที่ขาดประสิ
ทธิภาพ โดยการกำหนดจำนวนครู ตามขนาดโรงเรียนทำให้ครู ในโรงเรียนเล็กมีภาระหนักเกิ นความจำเป็น ครู 1 คนต้องรับภาระสอนนักเรียนมากกว่ า 1 ห้องเรียนและอาจเพิ่มสูงขึ้ นในอนาคต ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนครูที่ รุนแรงและทำให้คุณภาพโรงเรี ยนในพื้นที่ห่างไกลตกต่ำลงเรื่ อย ๆ - ความเหลื่อมล้ำยังสูง : โรงเรียนต่างจังหวัดคุณภาพต่ำ พบว่าคะแนน ONET กรุงเทพฯ สูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศประมาณ 23% ในหมวดคณิตศาสตร์ และ 40% ในหมวดภาษาอังกฤษ โรงเรียนใหญ่ในเมืองคุณภาพสู
งกว่ามาก ในขณะที่ผลคะแนน PISA ชี้ว่ามีนักเรี ยนจำนวนมากในไทยที่ไม่ผ่ านการทดสอบตามเกณฑ์ สะท้อนว่านักเรียนสัดส่วนใหญ่ ในไทยยังมีคุณภาพที่ต่ำกว่ าเกณฑ์และเด็กเก่งส่วนใหญ่กระจุ กตัวอยู่ในเมือง - คุณภาพครูไม่พร้อม : จากตัวเลขการสำรวจความเพี
ยงพอของบุคลากรในรายงานของ PISA ไทยขาดแคลนบุคลากรที่ผ่ านมาตรฐานทั้งในกลุ่มวิชาคณิ ตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษา โดยจากผลสำรวจมีสัดส่วนผู้ อำนวยการโรงเรียนมากเกิน 40% ที่ตอบคำถามว่าขาดแคลนครูที่ได้ มาตรฐาน งานศึกษาของ OECD ยังชี้ให้เห็นว่าคุณภาพครู ไทยเป็นปัญหามาจากวิธีการคัดเลื อก หลักสูตร และการประเมินผลของครูไทยที่ยั งไม่ได้มาตรฐานเมื่อเทียบกับต่ างประเทศ ส่งผลให้ครูไทยอาจขาดความเข้ าใจหลักสูตรและสอนตามเป้ าหมายของหลักสูตรได้ไม่เต็มที่ - เงินเดือนครูไม่พอ แรงจูงใจไม่ตรงเป้า : ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศเริ่
มต้นจากการกำหนดให้เงินเดือนครู อยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับวิ ชาชีพอื่น ในกรณีของไทยเงินเดือนครูยังไม่ สามารถดึงดูดผู้มีศักยภาพระดั บสูงที่สุดมาทำสายอาชีพนี้ได้ มากนักแม้ว่ารายได้ครูจะอยู่ ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับค่ าเฉลี่ยของประเทศแล้วก็ตาม ปัญหาที่สำคัญกว่านั้น คือปัญหาด้านแรงจูงใจ เนื่องจากในการพิจารณาขึ้นเงิ นเดือน น้ำหนักกว่า 70% คือจริยธรรมและผลการปฏิบัติ งานมากกว่าทักษะการสอน ทำให้ครูไทยใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่ องานนอกห้องเรียน เช่น การอบรมจากหน่วยงานต่าง ๆ หรือการทำรายงานเพื่อขอเลื่อนวิ ทยฐานะ มากกว่าการพัฒนาคุณภาพการสอน - ครูไทยชีวิตแย่ เป็นหนี้สูง : หนี้ของครูเฉลี่
ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท เทียบกับหนี้ครัวเรือนเฉลี่ยที่ 5 แสนล้านบาทเท่านั้น สะท้อนว่าคุณภาพชีวิตครูไทยค่ อนข้างอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอย่ างน้อยในทางการเงิน เมื่อครูอยู่ภายใต้ภาระหรือข้ อกังวลของปัญหาในชีวิตส่วนตัวก็ อาจส่งผลกระทบต่อคุ ณภาพการสอนในห้องเรียน - ปัญหาของการประเมินผลการศึกษา : แบบทดสอบที่ใช้วัดมาตรฐานการศึ
กษาของไทยมีข้อถกเถียงกันอย่ างกว้างขวางเรื่องคุ ณภาพของแบบทดสอบในหลายประเด็น 1) ข้อสอบ ONET ไม่ส่งเสริมให้เกิดการคิดวิ เคราะห์ถูกตั้งคำถามว่าหลายข้ อไม่มีคำตอบที่ถูกต้องชัดเจน 2) ข้อสอบวัดความถนัดเฉพาะ เช่น PAT ที่ใช้สำหรับการเข้ามหาวิทยาลั ยมีปัญหาในเรื่องความยาก การไม่ยึดโยงกับหลักสูตร และมาตรฐานที่ไม่เท่ากันในข้ อสอบแต่ละปี ทำให้การสอบวิชาคณิตศาสตร์มี คะแนนเฉลี่ยไม่ถึง 50 คะแนนจาก 300 คะแนน ผลักให้นักเรียนต้องหาความรู้ เพิ่มเติมจากโรงเรียนกวดวิชาซึ่ งซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำด้ านการศึกษาในไทย - โครงสร้างหลักสูตรและการจั
ดสรรเวลาเรียน หลักสูตรของไทยเน้นการให้เด็ กเรียนเยอะแต่บังคับการศึ กษาในกลุ่มวิทยาศาสตร์และคณิ ตศาสตร์น้อย มีลักษณะเน้นสอนเนื้อหาให้ครบถ้ วนเป็นหลัก เน้นการประเมินผลจากส่วนกลาง และขาดการสอนทักษะใหม่ ๆ เช่น ความรู้ทางการเงิน ทักษะความรู้ด้านดิจิทัล และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี สมัยใหม่ในการเรียนรู้ เป็นต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นยังส่งผลไปถึ งการสอนที่ต้องการให้ครบตามเนื้ อหาที่เยอะ ทำให้มีการเน้นการท่องจำไม่ กระตุ้นให้เห็นความสำคัญและเกิ ดการคิดวิเคราะห์ - การศึกษาแบบเก่า ผลิตคนไม่ตรงทักษะที่ต้องการ : โครงสร้างการศึกษาไทยยังเผชิญกั
บปัญหาผลิตคนไม่ตรงกับความต้ องการของตลาดในหลายมิติ 1) ระดับการศึกษา : คนจบปริญญาตรีทำงานที่ใช้ทั กษะต่ำกว่าความสามารถมากถึ งประมาณ 34% 2) อุตสาหกรรม : แรงงานในกลุ่มสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญ กฎหมาย ขาดแคลน ในขณะที่ภาคเกษตร ค้าปลีก มีมากเกินไป ซึ่งคนไทยมีความนิยมเรียนสาขาสั งคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ ทำให้ในปัจจุบันคนจบการศึ กษาในกลุ่มบริหารธุรกิจมี จำนวนเกินกว่าความต้องการไปถึ งประมาณ 35% ของแรงงานจบใหม่
5 ปัจจัยโลกเปลี่ยน หากไม่เร่งแก้การศึกษาเศรษฐกิ
โครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่
ไทยจะทำอย่างไรต่อไป ?
งานศึกษาของ PISA ชี้ให้เห็นหลายปัจจัยที่มี
KKP Research ประเมินว่าไทยยังไม่มีมาตรการที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น